Page 62 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 62

๕๖


                                  พระมาลัยสนทนา กับพระศรีอริยะเมตไตรย


                       ภันเต ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ในเมื่อครบถ้วน ๕๐๐๐ พระวรรษา สิ้นศาสนาแห่งพระโคดม

               สัมมาสัมพุทธเจ้า ในกาลใด ในกาลนั้นหมู่สัตว์ ทั้งหลายก็จะพากันมืดมนนัก ไม่รู้จักทําบุญทํากุศล มี

               แต่จะพากันทําบาป หยาบช้าทารุณ หาหิริโอตตัปปะมิได้ ดุจหนึ่งว่าไก่ แพะ แกะและสุนัข ทงหลาย
                                                                                                    ั้
               ลูกกับแม่ก็จะอยู่กินเป็นสามีภรรยากัน พี่สาวน้องชาย พี่ชาย น้องหญิง ตลอดถึงพี่ปูาน้าอาว์ ลุงกับ

               หลานต่างก็พากันสมัครสังวาสอยู่ ด้วยกัน กิเลส คือโลภะ โทสะ โมหะ ของหมู่สรรพสัตว์ก็จะ

                                                                ่
               หนาแน่นขึ้น ทุกเวลา อายุก็จะน้อยถอยลงไปตราบเทาอายุไขย์ได้ ๑๐ ปี แม้ทารกมี อายุเพียง ๕ ปีก็
               จะทําการวิวาหะอยู่กินด้วยกัน ในกาลนั้นคนทั้งหลาย เห็นกันก็จะสําคัญว่าเป็นเนื้อเป็นปลา จับสิ่งใด

               ได้เป็นต้นว่า กิ่งไม้ก็กลาย เป็นศาสตราวุธ ครั้นแล้วตางก็จะไล่ฆ่าฟ๎นทิ่มแทงกันและกัน ให้ถึงแก่
                                                                ่
               ความตายสุดที่จะประมาณได้ ฝุายชนทั้งหลาย ผู้มีบุญวาสนา มีป๎ญญา ครั้นทราบเหตุการณ์ว่า ถึงคืน


                       ั้
               นั้น วนนนจะเกิดฆ่าฟ๎นกันวุ่นวายเปนหนัก หนา ก็พากันหนีไปซุกซ่อนอยู่ตามซอกห้วยและภูเขาตาม
                                                ็
                    ั
               เหว ตามถ้ํา แต่ผู้เดียว เมื่อคนทั้งหลายฆ่าฟ๎นกันล้มตามภายใน ๘ วันแล้ว ผู้มีบุญ วาสนาก็ออกจากที่
               ซ่อนเร้นเมื่อเห็นกันพบกัน ต่างก็สวมกอดซึ่งกันและกัน สมัครสมานปรึกษากันว่า มาริสา ดูกรชาวเรา

               ทั้งหลายเอ๋ย ความพินาศ เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเหตุด้วยคนทั้งหลายมัวเมาประมาท ประกอบแต่ กรรม

               อันหยาบช้า หาเมตตาปราณีต่อกันมิได้


                       อิโต ป๎ฏฐายะ จําเดิมแต่นี้ไป ชาวเราทั้งหลายจงหมั่นประกอบการกุศล งดเว้นจากการฆ่าสัตว์

               ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม กล่าวมุสาวาท ดื่ม สุราเมรัย และงดเว้นจากอภิชฌา-พยาบาท-

                                                               ้
               มิจฉาทิฏฐิเถิด เมื่อปรึกษา กัน ฉะนี้แล้ว ต่างก็ตั้งหนาอุตส่าห์บําเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญเมตตา
               ภาวนา เมื่อคนเหล่านั้นมีลูก ลูกก็มีอายุยืนไป ๒๐ ปี หลานอายุยืนขึ้นไป ๓๐ ปี เหลนอายุยืนขึ้นไป

               ๔๐ ปี โดยนัยนี้ เจริญขึ้นไปจนตราบเท่าถึง อสงไขยหนึ่ง กาลครั้งนน ความไข้ ความตายดูเหมือนจะ
                                                                             ั้
                                              ่
               ไม่ปรากฏแก่ สัตว์ทั้งหลาย ต่อแตนั้น คนทั้งหลายก็เกิดความประมาท เมื่อเกิดความ ประมาทแล้ว
                                                           ั้
               อายุก็พลันน้อยถอยลงมาตั้งอยู่ ๘ หมื่นปี สมัยนน ฝนตกทุกกึ่งเดอน ถึง ๑๕ วัน ตกคราวหนึ่ง เมื่อจะ
                                                                           ื
                                               ิ
               ตกก็ตกในมัชฌิมยาม ยังพื้นแผ่นดนให้ชุ่มชนน่ารื่นรมย์ ประชาชนต่างก็พากันมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ มี
                                                       ื่
               แม่น้ําใหญ่ไหลขึ้นทางฟากหนึ่ง ไหลลงทางฟากหนึ่ง มีน้ําอันเต็มเปี่ยม เสมอฝ๎่งตั้งอยู่เป็นนิตยกาล

               บรรดาพฤกษาชาติใหญ่น้อยก็ผลิดอกออกผล ตามฤดูกาลเสมอเป็นนิรันดร์ ทั้งบ้านเรือนนิคมนั้นก็มิ

               ไกลกัน ตั้งอยู่เพียง ระยะไก่บินถึง อันตรายซึ่งจะกวน เช่น โจรผู้ร้ายก็ไม่มี สมบูรณ์พูลสุข เป็นอย่างด ี

               ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดทั้งแก้วแหวนเงินทอง สามี และภรรยาต่างก็ประคับประคองทนุถนอม

               น้ําใจกัน มิได้ทะเลาะวิวาท ทําร้ายกันเลย หญิงชายทงหลาย ต่างก็จะพากันเสวยโภคสมบัติอัน เป็น
                                                                ั้
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67