Page 17 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 17
13
ยี่ห้อเบนซ์จ านวน 359 คัน โดยผู้คัดค้านจะส่งมอบรถส่วนแรก 184 คัน ส่วนอีก 175 คันจะทยอยส่ง แต่ตามความเป็น
จริงนับแต่วันเริ่มสัญญาจนถึงวันที่ผู้คัดค้านบอกเลิกสัญญา ผู้คัดค้านส่งมอบรถยี่ห้อแดวูจ านวนสูงสุดเพียง 152 คัน
และส่งมอบรถยี่ห้อเบนซ์จ านวนสูงสุดเพียง 200 คัน มีปัญหาวินิจฉัยว่า การที่ ผู้คัดค้านส่งมอบรถให้ผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุง
ไม่ครบตามจ านวนที่ก าหนดในทั้งสองสัญญาจะถือว่าผู้คัดค้านผิดสัญญาหรือไม่ เมื่อพิจารณาสัญญาทั้งสองฉบับแล้ว
สัญญาที่หนึ่ง ตกลงจ้างซ่อมบ ารุงรถยี่ห้อแดวู จ านวน 236 คัน สัญญาที่สอง ตกลงจ้างซ่อมบ ารุงรถยี่ห้อเบนซ์จ านวน
359 คัน โดยตกลงค่าจ้างซ่อมบ ารุงรถยี่ห้อแดวูเป็นการเหมาจ่ายเป็นรายวันต่อคันต่อวัน เป็นเงิน 1,710 บาท
ส่วนค่าจ้างซ่อมบ ารุงรถโดยสารยี่ห้อเบนซ์ต่อคันต่อวัน เป็นเงิน 1,520 บาท จากข้อสัญญาดังกล่าว ย่อมแปลได้ว่า
ผู้เรียกร้องจะได้ค่าจ้างต่อเมื่อผู้คัดค้านส่งมอบรถให้แก่ผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุงและผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุงจนใช้งานได้
ส่วนจ านวนรถที่จะส่งให้ผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุง ย่อมเป็นเรื่องที่ผู้เรียกร้องกับผู้คัดค้านจะต้องร่วมกันตรวจสอบและน ารถ
เข้าสู่สัญญา ส่วนจ านวนรถที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ 1 เป็นจ านวนรถที่ผู้คัดค้านประสงค์จะให้ผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุงเท่านั้น
หากผู้คัดค้านยังมิได้ส่งมอบรถให้ผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุง ผู้เรียกร้องหามีสิทธิที่จะได้ค่าซ่อมบ ารุงไม่ และปรากฏตามตาราง
สรุปค่าซ่อมรถว่าผู้คัดค้านช าระค่าซ่อมบ ารุงรถทั้งสองสัญญาตามจ านวนรถที่ผู้คัดค้านส่งมอบตามจ านวนที่เป็นจริง มิใช่
ช าระค่าซ่อมบ ารุงรถตามจ านวนรถที่ก าหนดไว้ในสัญญาข้อ 1 แต่ไม่ปรากฏว่า ผู้เรียกร้องโต้แย้งหรือทักท้วงว่าผู้คัดค้าน
ช าระค่าจ้างซ่อมบ ารุงไม่ครบจ านวนตามสัญญาแต่อย่างใด ย่อมรับฟังได้ว่า ผู้เรียกร้องรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า การที่จะส่งมอบรถ
คันใดให้ผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุงเป็นสิทธิของผู้คัดค้านและผู้เรียกร้องที่จะตกลงกันและผู้เรียกร้องจะได้ค่าซ่อมบ ารุงรถตาม
จ านวนรถที่ผู้คัดค้านส่งมอบให้ซ่อมบ ารุงเท่านั้น ผู้เรียกร้องจึงไม่โต้แย้งหรือทักท้วงจ านวนค่าซ่อมบ ารุงรถที่ผู้คัดค้านช าระ
แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ผู้คัดค้านส่งมอบรถให้ผู้เรียกร้องซ่อมบ ารุงไม่ครบตามจ านวนที่ก าหนดในข้อ 1 ของทั้งสองสัญญา
ย่อมเป็นไปตามสัญญา และไม่ถือว่าผู้คัดค้านผิดสัญญา
มีปัญหาวินิจฉัยต่อไปว่า ผู้เรียกร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญาหรือไม่ คณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควรวินิจฉัย
ก่อนว่า รถเบนซ์จ านวน 43 คัน และรถแดวูจ านวน 30 คันที่ผู้เรียกร้องขอส่งคืนผู้คัดค้านเป็นรถที่มีสภาพไม่สามารถ
ซ่อมแซมและฟื้นฟูได้จริงหรือไม่ ปัญหานี้เมื่อผู้เรียกร้องขอคืนรถจ านวน 73 คัน โดยอ้างว่า รถที่ขอคืนมีสภาพไม่สามารถ
ซ่อมแซมและฟื้นฟูได้ ผู้คัดค้านก็มีหนังสือขอบอกเลิกสัญญาแก่ผู้เรียกร้อง หลังจากนั้นผู้เรียกร้องมีหนังสือถึงผู้คัดค้านรวม
3 ฉบับ ขอความอนุเคราะห์กลับเข้าสู่สัญญาและได้เสนอแผนการซ่อมและบ ารุงรักษารถทั้งสองสัญญาโดยจะขอปฏิบัติ
ตามสัญญาจ้าง ข้อ 3.1 การบ ารุงรักษารถประจ าวันโดยยอมรับว่า หากเครื่องยนต์ชิ้นใดหมดอายุการใช้งานผู้เรียกร้อง
มีหน้าที่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนเป็นของใหม่เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ โดยผู้เรียกร้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น เห็นว่า
จากหนังสือขอกลับเข้าสู่สัญญาและแผนการซ่อมแซมและบ ารุงรักษารถทั้งสองสัญญา ย่อมรับฟังได้ว่ารถจ านวน 73 คันที่
ผู้เรียกร้องขอส่งคืนผู้คัดค้านนั้นเป็นรถที่ยังมีสภาพสามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูได้ เพียงแต่การซ่อมแซมรถจ านวนดังกล่าว
อาจท าให้ผู้เรียกร้องต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจ านวนสูงมากขึ้นจนถึงกับท าให้ผู้เรียกร้องขาดทุนก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม
เมื่อผู้เรียกร้องยอมรับแล้วว่า การซ่อมบ ารุงรถจ านวนดังกล่าวยังสามารถท าได้และเป็นหน้าที่ของผู้เรียกร้องตามสัญญา
ดังนั้นการที่ผู้เรียกร้องขอคืนรถจ านวนดังกล่าวย่อมถือว่า ผู้เรียกร้องปฏิเสธการท าหน้าที่ตามสัญญาและก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่ผู้คัดค้านที่ไม่สามารถน ารถจ านวนดังกล่าวออกใช้ประโยชน์ได้ จึงถือว่า ผู้เรียกร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา
ประเด็นที่ 2 ผู้คัดค้านบอกเลิกสัญญาโดยชอบหรือไม่ เมื่อคณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยไว้ใน
ประเด็นที่ 1 แล้วว่า ผู้เรียกร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้คัดค้านย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ การบอกเลิกสัญญาของผู้คัดค้าน
จึงชอบแล้ว