Page 62 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 62

58





               22. ค ำชี้ขำดข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 119/2561


               ประเด็นข้อพิพำท : กำรที่ผู้เรียกร้องยื่นค ำเสนอข้อพิพำทนี้ เป็นกำรด ำเนินกระบวนพิจำรณำซ้ ำหรือฟ้องซ้อนหรือไม่

                              ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ ผู้เรียกร้องได้ยื่นค าเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการในคดีนี้
               ขอให้คณะอนุญาโตตุลาการมีค าชี้ขาด ให้ผู้คัดค้านชดใช้เงิน ๑,๗๑๗,๐๐๑.๓๒  บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี
               ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันยื่นเสนอข้อพิพาทเป็นต้นไปจนกว่าจะช าระเสร็จแก่ผู้เรียกร้อง คืนหนังสือค้ าประกันสัญญา

               ของธนาคารก. และให้ใช้เงินค่าธรรมเนียมหนังสือค้ าประกันสัญญาของธนาคาร ปีละ ๔,๔๘๗ บาทพร้อมดอกเบี้ย
               ร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันยื่นเสนอข้อพิพาทเป็นต้นไปจนกว่าจะคืนหนังสือค้ าประกัน
               และช าระดอกเบี้ยแล้วเสร็จให้แก่ผู้เรียกร้อง    ผู้คัดค้านยื่นค าคัดค้านว่า เมื่อวันที่ ๒ ๙   ตุลาคม ๒๕๕๕
               ผู้เรียกร้องเคยยื่นค าเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ เป็นข้อพิพาทหมายเลขด าที่๑๒๗/255๕ ข้อพิพาท
               หมายเลขแดง ที่ ๖๘/2557 ระหว่าง ผู้เรียกร้อง กับ ผู้คัดค้าน ในมูลหนี้ตามสัญญาก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ และ
               คณะอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทดังกล่าวก าหนดประเด็นข้อพิพาท ๒ ประเด็น กล่าวคือ ผู้เรียกร้องมีสิทธิบอกเลิกสัญญา
               และมีสิทธิได้รับช าระค่าจ้างตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ เพียงใด และผู้คัดค้านมีสิทธิเรียกเอาค่าปรับตามข้อเรียกร้องแย้ง
               หรือไม่ เพียงใด ทั้งนี้คณะอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทดังกล่าววินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านต้องรับผิดช าระค่าแห่งการงาน
               แก่ผู้เรียกร้องเป็นเงิน ๙๖๓,๕๘๕.๓๙ บาท  หักค่าปรับจ านวน ๖๙๙,๙๗๒ บาทแล้ว เหลือเงินที่ผู้คัดค้านต้องช าระแก่
               ผู้เรียกร้องจ านวน ๒๖๓,๖๑๓.๓๙ บาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี แต่สิทธิในการเรียกร้องในเงิน

               ค่าก่อสร้างดังกล่าวผู้เรียกร้องได้โอนไปยังธนาคารพ. ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องแล้ว สิทธิเรียกร้องในการรับเงิน
               ค่าก่อสร้าง ตกไปเป็นของธนาคารดังกล่าว ผู้เรียกร้องไม่มีสิทธิรับช าระเงินจ านวนนี้ตามข้อเรียกร้องอีก
               คณะอนุญาโตตุลาการจึงชี้ขาดให้ยกข้อเรียกร้องของผู้เรียกร้องและข้อเรียกร้องแย้ง ต่อมา เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน
               ๒๕๕๗ ผู้เรียกร้องจึงยื่นค าร้องขอให้ศาลปกครองกลางเพิกถอนค าชี้ขาดเป็นคดีหมายเลขด าที่ ๑๘๑๖/255๗ และ
               ศาลปกครองกลางมีค าพิพากษายกค าร้อง ดังนั้น การที่ผู้เรียกร้องได้เคยยื่นค าเสนอข้อพิพาทเป็นข้อพิพาทหมายเลข
               คดีด าที่ 12๗/2555 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ ๖๘/2557 เรียกร้องให้ผู้คัดค้านช าระเงินค่าก่อสร้างในงาน งวดที่ 2
               และงวดที่ 3 ตามสัญญาจ้างก่อสร้างอเนกประสงค์ ค าชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการจึงผูกพันคู่พิพาท การที่

               ผู้เรียกร้องยื่นค าเสนอข้อพิพาทเป็นคดีนี้อีกแต่ประเด็นพิพาทก็ยังคงเป็นประเด็นเดียวกันกับประเด็นพิพาท
               ประเด็นที่ ๑   อันเป็นประเด็นเดียวกันกับที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยไว้แล้วในข้อพิพาทคดีก่อน ดังนั้น
               ค าเสนอข้อพิพาทของผู้เรียกร้องในข้อพิพาทนี้จึงเป็นการด าเนินกระบวนพิจารณาซ้ า ต้องห้ามตามประมวลกฎหมาย
               วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ผู้คัดค้านจึงขอให้คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นข้อกฎหมาย
               เบื้องต้นว่า การที่ผู้เรียกร้องยื่นค าเสนอข้อพิพาทนี้เป็นการด าเนินกระบวนการพิจารณาซ้ าหรือฟ้องซ้อนกับค าเสนอ
               ข้อพิพาทหมายเลขด าที่ 127/2555 หมายเลขแดงที่ 68/2557 ระหว่างผู้เรียกร้องกับผู้คัดค้าน ของสถาบัน
               อนุญาโตตุลาการ ส านักงานศาลยุติธรรม หรือไม่
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67