Page 57 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 57
53
ค่าไฟฟ้าที่ตนใช้ไปในการก่อสร้างอาคาร และจ่ายค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงนั้น ผู้คัดค้านจะอ้างว่าสัญญาจ้าง
ก่อสร้างอาคารได้เสร็จสิ้นไปแล้วและมีการส่งมอบอาคารให้แก่ผู้เรียกร้องแล้ว ผู้คัดค้านจึงไม่มีหน้าที่หรือความผูกพัน
ที่จะต้องจ่ายเงินค่าไฟฟ้าอีกนั้นจึงฟังไม่ขึ้น ส่วนข้อต่อสู้ของผู้คัดค้านทั้งสองที่อ้างว่าตนไม่ต้องรับผิดเพราะค่าใช้จ่าย
Factor F ไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการกระท าละเมิดหรือการก่อให้เกิดความเสียหายของบุคคลภายนอก
หรือองค์กรของการไฟฟ้า เพราะในกรณีที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเปลี่ยนอัตราเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเองโดยที่เป็นความผิดพลาด
ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคถือว่าเป็นการกระท าละเมิดของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าที่ไปเปลี่ยนประเภทของการใช้ไฟฟ้าเอง
ผู้คัดค้านจึงไม่มีความรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวนั้น มีปัญหาว่าการกระท าที่เรียกเก็บค่าไฟฟ้าผิดพลาดของเจ้าหน้าที่
การไฟฟ้าเป็นการกระท าละเมิดหรือไม่ การกระท าละเมิดนั้นเป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๔๒๐ แห่งประมวลกฎหมาย
แพ่งและพาณิชย์ ซึ่งเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อผู้กระท านั้นจงใจหรือประมาทเลินเล่อกระท าต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย กล่าวคือ
มีการกระท าโดยผู้กระท าไม่มีอ านาจตามกฎหมายที่จะกระท าการนั้น การที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเรียกเก็บค่า
ไฟฟ้าในอัตราที่ไม่ถูกต้อง ต่อมาเมื่อพบความผิดพลาดเจ้าหน้าที่จึงกลับไปเรียกเก็บในอัตราที่ถูกต้องนั้นไม่เป็นการกระท า
ที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง จึงไม่เป็นการกระท าละเมิด การไฟฟ้าส่วน
ภูมิภาคมีสิทธิเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดไปได้ และเมื่อผู้เรียกร้อง ได้จ่ายเงินค่าใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมให้
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยเป็นกระท าการแทน ผู้คัดค้านที่ ๑ ไป อันมีลักษณะเป็นการกระท าแทน หรือเป็นตัวแทน
ในการติดต่อกับการไฟฟ้า ฯ แทนผู้คัดค้าน ซึ่งมีลักษณะเป็นตัวการในการกระท าดังกล่าว ผู้เรียกร้องจึงมีสิทธิเรียกร้องเงิน
ที่ออกไปแทนผู้คัดค้านที่ ๑ และ ผู้คัดค้านที่ ๒ ได้ ตามบทบัญญัติมาตรา ๘๑๖ วรรคหนึ่ง การที่ผู้คัดค้านทั้งสองไม่ยอม
ช าระเงินค่าไฟฟ้าในส่วนที่ขาดไปและต้องจ่ายเพิ่มเติมและที่ผู้เรียกร้องจ่ายแทนไป ผู้คัดค้านทั้งสอง จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
และมีหน้าที่ต้องช าระค่าไฟฟ้าดังกล่าว
ประเด็นที่ 2 ผู้คัดค้ำนทั้งสองต้องรับผิดในเรื่องค่ำเสียหำยเป็นจ ำนวนเท่ำใด เมื่อผู้คัดค้านมีภาระ
ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าไฟฟ้าที่ ผู้คัดค้านจึงเป็นหนี้ที่ต้องช าระค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมให้แก่ผู้เรียกร้อง ตามมาตรา ๑๙๔
ผู้คัดค้านจึงต้องรับผิดช าระหนี้ให้ผู้เรียกร้องในต้นเงินจ านวนดังกล่าวเป็นจ านวนเงิน ๒๔๗,๒๓๗.๒๒ บาท ดังนั้น
ผู้เรียกร้องจึงมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นลูกหนี้รับผิดช าระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ในระหว่างเวลาที่
ผิดนัด ตาม มาตรา ๒๒๔ คือ นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ จนถึงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๙ จากเงินต้นจ านวน
๒๔๗,๒๓๗.๒๒ บาท คิดเป็นเงินดอกเบี้ยจ านวน ๑๕,๓๕๑.๐๐ บาท เมื่อรวมเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าด้วยกัน คิดได้เป็นเงิน
จ านวน ๒๖๒,๕๘๘.๒๒ บาท
ด้วยเหตุต่าง ๆ ดังกล่าว คณะอนุญาโตตุลาการจึงวินิจฉัยโดยชี้ขาด ให้ผู้คัดค้านที่ ๑ และผู้คัดค้านที่ ๒
ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการที่ต้องรับร่วมรับผิดผู้คัดค้านที่ ๑ ในฐานะส่วนตัวตามกฎหมาย ร่วมกันหรือแทนกันช าระเงินจ านวน
๒๔๗,๒๓๗.๒๒ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ จนถึงวันที่
๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นเงินดอกเบี้ยจ านวน ๑๕,๓๕๑.๐๐ รวมเป็นเงินจ านวนทั้งสิ้น ๒๖๒,๕๘๘.๒๒ บาท และให้ดอกเบี้ย
ในอัตรา ๗.๕ ของต้นเงินจ านวน ๒๔๗,๒๓๗.๒๒ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๙ จนกว่าจะช าระเสร็จ
แก่ผู้เรียกร้อง ส่วนค าขออื่นให้ยก