Page 53 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 53

49



                              ส าหรับรายการค่าขาดรายได้จากการต้องยุบเลิกตึกเดิมไปและรอใช้อาคารใหม่ทดแทนเป็นสถานที่
               ท าการเพื่อเปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยนอกนั้น เห็นว่า กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรม ก. พ.ศ. ๒๕๕๒ ก าหนดภารกิจและ
               อ านาจหน้าที่ของผู้คัดค้านไว้อย่างแน่ชัดว่า เป็นส่วนราชการของกระทรวงข. อันเป็นหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่ให้บริการ
               สาธารณะกับประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคจิตเวชอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระหว่างรื้อถอนอาคารหลังเก่าเพื่อก่อสร้างอาคาร
               หลังใหม่ตามสัญญาจ้าง นี้ ยังคงเปิดให้บริการกับผู้ป่วยจิตเวชปกติเหมือนเดิม โดยย้ายสถานที่ท าการรักษาคนไข้ไปยัง
               ส่วนอื่นของโรงพยาบาลเป็นการชั่วคราว ไม่ได้หยุดหรือปิดการรักษาผู้ป่วยแต่อย่างใด รายได้ที่เก็บจากผู้ป่วยก็ดี รายจ่ายที่
               ต้องใช้ในการรักษาผู้ป่วยก็ดี แม้กระทั่งเงินค่าก่อสร้างตามสัญญาจ้างจนเสร็จสมบูรณ์ ล้วนเกี่ยวข้องกับรายได้

               และงบประมาณของทางราชการ แม้จะไม่ได้มีความมุ่งหวังหาผลก าไรจากประชาชนที่ป่วยเป็นโรคจิตเวชโดยตรง
               เหมือนอย่างกิจการของเอกชนก็ตาม จึงไม่อาจพิจารณาค่าขาดรายได้ตามที่ผู้คัดค้านเรียกร้องได้ ส่วนค่าขาดประโยชน์
               เห็นว่า ผู้คัดค้านซึ่งเป็นส่วนราชการย่อมต้องเสียประโยชน์จากการไม่สามารถเข้าใช้อาคารใหม่ในการให้บริการผู้ป่วยได้
               ตามก าหนดเวลา ผู้เรียกร้องที่ ๑ ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบจากการปฏิบัติผิดสัญญาจ้างพิพาทในส่วนนี้ได้ ซึ่งความ
               เสียหายในส่วนนี้ย่อมต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แม้ผู้คัดค้านไม่สามารถพิสูจน์เป็นจ านวนเงินได้อย่างชัดเจน แต่ก็สามารถ
               ก าหนดให้ได้ตามกฎหมาย จึงเห็นควรก าหนดให้ผู้เรียกร้องต้องรับผิดค่าขาดประโยชน์จากการใช้อาคารเป็นจ านวน
               ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
                              รายการเงินค่าจ้างที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องมาจากต้องจ้างผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาท างานที่เหลือต่อไป
               ให้แล้วเสร็จ จ านวน ๑,๕๗๑,๕๔๒.๖๘ บาท นั้น เมื่อพิจารณาจากสัญญาจ้างกับผู้รับจ้างรายใหม่ เห็นว่า มีงานส่วนหนึ่ง

               ในงวดแรกที่ผู้รับจ้างรายใหม่ต้องท าการรื้อถอนและปรับแต่งงานเดิมเพื่อจะด าเนินการก่อสร้างตามรูปแบบเดิมต่อไปใหม่ได้
               ซึ่งหากผู้เรียกร้องที่ ๑ ท าการก่อสร้างงานส่วนนี้ต่อไปด้วยตนเองก็จะไม่เกิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จึงไม่อาจถือว่าเป็นงานเพิ่ม
               หรืองานใหม่นอกเหนือจากงานในสัญญาเดิม เงินค่าจ้างส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นนี้จึงถือเป็นค่าเสียหายที่ผู้คัดค้านได้รับโดยตรง
               จากการที่ผู้เรียกร้องที่ ๑ ผิดสัญญาและต้องรับผิดต่อผู้คัดค้าน
                              ส าหรับค าขอของผู้คัดค้านที่เรียกร้องเอาดอกเบี้ยผิดนัด ในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน
               ที่เรียกร้องแต่ละรายการ นับตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่ครบก าหนดที่ผู้เรียกร้องที่ ๑ ต้องช าระ
               ค่าเสียหายตามหนังสือทวงถาม ฉบับลงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ จนถึงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่
               ผู้คัดค้านยื่นค าเสนอข้อพิพาทหมายเลขด าที่ ๒๑/๒๕๖๐ นั้น เห็นว่า เมื่อผู้เรียกร้องที่ ๑ มีหนี้เงินที่ต้องรับผิดและช าระ

               แต่ไม่ช าระและผิดนัด ผู้คัดค้านย่อมมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดได้ตามกฎหมาย ในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี
               ของต้นเงินในแต่ละรายการตามที่วินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น ได้แก่ ค่าปรับรายวัน จ านวน ๒,๗๕๐,๘๓๗.๒๐ บาท ค่าควบคุม
               งานรายวัน จ านวน ๔๗,๑๐๐บาท ค่าขาดประโยชน์จ านวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และค่าจ้างที่เพิ่มสูงขึ้น จ านวน
               ๑,๕๗๑,๕๔๒.๖๘ บาท นับแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไปจนกว่าผู้เรียกร้องที่ ๑ จะช าระให้แก่ผู้คัดค้านเสร็จสิ้น
               และครบถ้วน
                              แม้ว่าคู่สัญญากับผู้คัดค้านตามสัญญาจ้าง จะเป็นผู้เรียกร้องที่  ๑ ซึ่งเป็นนิติบุคคลเท่านั้น
               แต่ผู้เรียกร้องที่ ๒ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ตามส าเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน ย่อมต้องร่วมรับผิดกับ
               ผู้เรียกร้องที่ ๑ ในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนจ ากัดด้วยโดยไม่จ ากัดจ านวนตามที่กล่าวแล้วข้างต้น
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58