Page 52 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 52

48



               ส านักมาตรฐานงบประมาณ ส านักงบประมาณ กล่าวถึงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การน าสัญญาแบบปรับราคาได้มาใช้กับงาน
               ก่อสร้างทุกประเภทว่า เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องเรียกร้องภายในก าหนด ๙ ๐   วัน นับตั้งแต่วันที่
               ผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หากพ้นก าหนดนี้ไปแล้ว ผู้รับจ้างไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินเพิ่มค่างานก่อสร้างจาก
               ผู้ว่าจ้างได้อีกต่อไป เมื่อผู้เรียกร้องที่ ๑ ไม่ได้ท างานก่อสร้างตามสัญญานี้จนถึงงานงวดสุดท้าย ผู้เรียกร้องทั้งสองจึง
               ไม่มีสิทธิขอเพิ่มค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ อีกทั้งได้ล่วงเลยก าหนดเวลา ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันบอกเลิกสัญญา
               ที่ผู้เรียกร้องที่ ๑ ได้ระงับการท างานก่อสร้างแล้ว จึงไม่อาจมีค าสั่งให้ตามค าขอนี้ได้
                              รายการที่สี่ ค าขอให้ชดใช้ค่าขาดประโยชน์อันเนื่องมาจากผู้คัดค้านท าผิดสัญญา ท าให้ผู้เรียกร้อง

               ที่ ๑ เสียประโยชน์ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้จากการวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทประเด็นแรกแล้วว่า ผู้เรียกร้องที่ ๑ เป็นฝ่าย
               ผิดสัญญา ผู้เรียกร้องที่ ๑ จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องตามค าขอนี้
                              รายการที่ห้า ค าขอให้คืนเครื่องมือ เครื่องใช้ และวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง กับทรัพย์สินอื่นในกิจการของ
               ผู้เรียกร้องและทรัพย์สินส่วนตัวที่ผู้คัดค้านได้ยึดเอาไปทั้งหมดโดยมิชอบ รวมทั้งรถแบคโฮด้วยนั้น เห็นว่า เมื่องานก่อสร้าง
               อาคารตามสัญญาได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้คัดค้านจึงต้องคืนรถแบคโฮและทรัพย์สินอื่น ๆ ทั้งหมดที่ยังมีสภาพเหลืออยู่คืนให้แก่
               ผู้เรียกร้องที่  ๑  ส่วนค่าเสียหายที่ผู้เรียกร้องที่  ๑   ไม่สามารถน าสิ่งของไปใช้ประโยชน์ได้นั้น
               ผู้เรียกร้องทั้งสองเพียงกล่าวอ้างลอย ๆ โดยไม่ได้น าพยานหลักฐานมาแสดงให้เห็นได้ว่า ผู้เรียกร้องที่ ๑ จะสามารถ
               ได้ประโยชน์จากเครื่องมือและอุปกรณ์เหล่านั้นได้จริงเพียงใด ผู้เรียกร้องที่ ๑ จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายส่วนนี้
                              รายการที่หก ค าขอให้ผู้คัดค้านออกหนังสือรับรองผลงานเต็มตามจ านวนเงินในสัญญาจ้างนั้น

               เห็นว่า เนื่องจากผู้เรียกร้องที่ ๑ เป็นฝ่ายผิดสัญญา และผู้คัดค้านได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้คัดค้านในฐานะผู้ว่าจ้างและเป็น
               หน่วยงานราชการของรัฐ จึงต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของทางราชการในการออกหนังสือรับรองผลงานให้แก่ผู้เรียกร้อง
               เป็นกรณีไม่อาจมีค าสั่งให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามค าขอในส่วนนี้ได้
                              ส่วนค าขอของผู้คัดค้าน ๔ รายการ ตามค าเสนอข้อพิพาทหมายเลขคดีด าที่ ๒๑/๒๕๖๐ นั้น รายการแรก
               ได้แก่ ค่าปรับรายวัน จนถึงวัดผิดนัดคือ วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ รวม ๑๕๗ วัน และค่าควบคุมงานวันละ ๓๐๐ บาท
               รวม ๑๕๗ วัน พิจารณาแล้วให้ตามจ านวนวันที่ขอ  ส่วนจ านวนเงินค่าปรับรายวันนั้น เห็นว่า ยังไม่สอดคล้องกับสัญญา
               ข้อ ๑๗ ที่ให้คิดค านวณจากฐานของราคา “งานที่ยังไม่ได้รับมอบ” เท่านั้น หาใช่จากจ านวน ๔๕,๘๘๙,๒๒๒.๒๑ บาท
               ซึ่งเป็นเงินค่างานก่อสร้างทั้งหมดเต็มจ านวนตามสัญญาจ้างไม่ เมื่อผู้เรียกร้องที่ ๑ ท างานเสร็จไปถึงงวดที่ ๙, ๙/๑ รับเงิน

               ค่างานงวดไป แล้ว จึงคงเหลือค่างานที่ยังไม่ได้รับมอบอีกเป็นเงิน ๒๖,๑๙๘,๔๕๗.๓๒ บาท ในอัตราร้อยละ ๐.๑๐ ต่อวัน
               จึงคิดเป็นเงินค่าปรับรายวัน ๆ ละ ๒๖,๑๙๘.๔๕ บาท จ านวน ๑๕๗ วัน คิดเป็นเงินค่าปรับรายวัน ๔,๑๑๓,๑๕๖.๖๐ บาท
               อย่างไรก็ตาม ผู้คัดค้านมีส่วนท าให้การลงนามในบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างฯ ครั้งที่ ๖ ล่าช้าไปบ้าง กล่าวคือ
               เมื่อผู้คัดค้านส่งร่างบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งที่ ๕ และครั้งที่ ๖ ไปให้ผู้เรียกร้องที่ ๑ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ และ
               ผู้เรียกร้องที่ ๑ โต้แย้งข้อความในร่างดังกล่าว ข้อ ๔ ข้อ ๕ และข้อ ๖.๑ จนท าให้ผู้คัดค้านต้องเอาข้อความเหล่านั้น
               ออกจนเป็นบันทึกข้อตกลงฯ ที่ทั้งสองฝ่ายสามารถลงนามกันได้ในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ จึงท าให้ผู้เรียกร้องที่ ๑
               เสียเวลาในส่วนนี้ไป ๕๒ วัน เห็นควรน ามาหักออกจากจ านวนวันที่ปรับผู้เรียกร้องที่ ๑ เหลือเป็นจ านวนวันที่ต้องปรับ
               ๑๐๕ วัน คิดเป็นเงินค่าปรับรวม ๒,๗๕๐,๘๓๗.๒๐ บาท ส่วนค่าควบคุมงาน ตามสัญญา ข้อ ๑๗ ก าหนดให้ผู้เรียกร้องที่ ๑
               ต้องรับผิดไว้อย่างชัดเจนและผู้คัดค้านยังคงต้องมีผู้ควบคุมงานเพื่อท าหน้าที่ควบคุมงานตามระเบียบพัสดุฯ เหมือน

               อย่างเช่นกรณีที่ว่าจ้างผู้เรียกร้องที่ ๑ ด าเนินการก่อสร้าง ผู้เรียกร้องจึงต้องรับผิดในค่าเสียหายซึ่งเป็นผลโดยตรงส่วนนี้
               ด้วยอีกจ านวน ๔๗,๑๐๐ บาท
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57