Page 51 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 51
47
ของกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานที่ผู้ว่าจ้างแต่งตั้งเพื่อให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ โดยจะคิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มขึ้น
จากผู้ว่าจ้างไม่ได้” ก็ไม่ปรากฏว่ามีกรณีผู้เรียกร้องทั้งสองโต้แย้งหรือคัดค้านเกี่ยวกับรูปแบบและรายการละเอียดของงาน
ก่อสร้างว่ามีความผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน ฟังได้ว่าผู้คัดค้านไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล
ส าหรับเรื่องการจ่ายเงินค่าจ้างงานงวดล่าช้านั้น เห็นว่า ผู้เรียกร้องที่ ๑ และผู้คัดค้านไม่มีก าหนดเวลา
ช าระหนี้ที่แน่นอนและตกเป็นผู้ผิดนัดตามกฎหมายในระหว่างการปฏิบัติตามสัญญาจ้างได้ ผู้เรียกร้องทั้งสองจึงไม่มี
ข้อสัญญาและข้อกฎหมายใดที่จะเรียกให้ผู้คัดค้านต้องรับผิดในดอกเบี้ยของเงินค่างานแต่ละงวดที่ผู้คัดค้านจ่ายเกินก าหนด
ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้คัดค้านตามที่ผู้เรียกร้องกล่าวอ้าง
ส าหรับเรื่องการท าบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างฯ ครั้งที่ ๕ และครั้งที่ ๖ ล่าช้านั้น
สาเหตุแรกได้แก่ ทั้งผู้เรียกร้องทั้งสองและผู้คัดค้านต่างมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนและมีความเห็นไม่ตรงกันในสองสาเหตุ
ดังกล่าว ท าให้การลงนามในบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้าง ครั้งที่ ๕ และครั้งที่ ๖ ต้องล่าช้าออกไป
อย่างไรก็ตาม จากบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้าง ครั้งที่ ๔ ก าหนดเวลาแล้วเสร็จของ
การก่อสร้างอาคารตามสัญญาจ้างฯ คือ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ ในขณะที่ผู้เรียกร้องที่ ๑ ได้ส่งมอบงานงวดที่ ๙, ๙/๑
เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เห็นว่า แม้ผู้คัดค้านจะยังไม่ได้ช าระเงินค่างานงวดที่ ๘, ๘/๑, ๙, ๙/๑
ที่ผู้คัดค้านได้ตรวจรับมอบงานไปแล้วให้ครบถ้วน เนื่องจากมีข้อโต้แย้งในการลงนามในบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติม
สัญญาจ้าง ครั้งที่ ๕ และครั้งที่ ๖ ตามที่กล่าวข้างต้น ผู้เรียกร้องที่ ๑ ยังมีหน้าที่ต้องด าเนินการก่อสร้างอาคารตาม
สัญญาจ้างฯ ต่อไปเพื่อให้แล้วเสร็จตามข้อก าหนดของสัญญา หรือจนกว่าผู้คัดค้านจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างฯ แต่
ผู้เรียกร้องที่ ๑ หาได้ด าเนินการก่อสร้างอาคารตามสัญญาจ้างฯ และส่งมอบงานงวดให้ผู้คัดค้านต่อไป ไม่อาจฟังว่า
ผู้เรียกร้องที่ ๑ ได้ท าหน้าที่ของตนในการก่อสร้างอาคารตามสัญญาจ้างต่อไปหลังจากที่มีการขยายระยะเวลาครั้งที่ ๖
ผู้เรียกร้องที่ ๑ จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาจ้าง
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปมีว่าผู้คัดค้านหรือผู้เรียกร้องทั้งสองต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่คู่พิพาท
อีกฝ่ายหนึ่ง หรือไม่ เพียงใด เห็นว่า ค าขอของผู้เรียกร้องที่ ๑ ในค าเสนอข้อพิพาทที่ขอให้มีค าสั่งขยายระยะเวลา
การก่อสร้างตามสัญญาจ้างนั้น เมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านได้บอกเลิกสัญญาดังกล่าวแล้ว และว่าจ้างผู้รับจ้างรายใหม่ให้เข้า
ด าเนินการก่อสร้างแทนผู้เรียกร้องที่ ๑ ต่อไปจนงานก่อสร้างตามสัญญาได้เสร็จสิ้นทั้งหมดและผู้คัดค้านได้เข้าใช้งานแล้ว
คณะอนุญาโตตุลาการจึงไม่อาจมีค าสั่งขยายระยะเวลาการก่อสร้างตามสัญญาจ้าง ได้ ส่วนค าขอของ
ผู้เรียกร้องที่ ๑ ในค าเสนอข้อพิพาทเพิ่มเติม ๖ รายการนั้น
รายการแรก คือ ค่าจ้างงานก่อสร้างส่วนที่ผู้เรียกร้องที่ ๑ ท างานเกินไปกว่าจ านวนค่าจ้างงานก่อสร้าง
ที่ได้รับช าระแล้ว ที่ผู้เรียกร้องทั้งสองกล่าวอ้างว่าได้ท าไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งมอบ เมื่อผู้คัดค้านโต้แย้งว่ายังไม่ได้ท า
ภาระการพิสูจน์จึงตกอยู่กับผู้เรียกร้องที่ ๑ ซึ่งไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดของฝ่ายผู้เรียกร้องทั้ง ในขณะที่
ผู้คัดค้านให้การปฏิเสธว่าหลังจากส่งงานงวดที่ ๙, ๙/๑ แล้ว ผู้เรียกร้องที่ ๑ ไม่ได้เข้าท างานงวดที่เหลือต่ออีกเลย
ผู้เรียกร้องที่ ๑ จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างส่วนนี้
รายการที่สอง ค าขอให้ผู้คัดค้านคืนหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยนั้น
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้จากการวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทประเด็นแรกแล้วว่า ผู้เรียกร้องที่ ๑ เป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้คัดค้าน
จ าต้องยึดหลักประกันดังกล่าวไว้เพื่อด าเนินการบังคับตามสิทธิเรียกร้องต่อไป จึงไม่อาจสั่งให้คืนหลักประกัน
การปฏิบัติตามสัญญาของธนาคารผู้ค้ าประกันแก่ผู้เรียกร้องที่ ๑ ได้
รายการที่สาม ค าขอให้ผู้คัดค้านช าระค่าก่อสร้างแบบปรับราคาได้ (ค่า K) นั้น เห็นว่า จากหนังสือคู่มือ
การตรวจสอบเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง (ค่า K) ตามมติคณะรัฐมนตรีและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง รวบรวมและจัดท าโดย