Page 101 - 2557 เล่ม 1
P. 101
๑๐๑
รื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ํา ทั้งตามคําขอท้ายฟ้องก็ไม่ได้ขอให้จําเลยรื้อถอนอาคาร
ออกไประยะเท่าใด จึงต้องฟงงว่าอาคารของจําเลยรุกล้ําเข้าไปในที่ดินของโจทก์ เริ่มจาก
ทิศใต้กว้างที่สุดประมาณ ๒๐ เซนติเมตร เป็นรูปสามเหลี่ยมชายธงยาวตลอดแนวไปจดด้าน
ทิศเหนือ คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ ๔ ตารางวา แต่การบังคับคดีเป็นการรื้อถอนเกินกว่าระยะ
๒๐ เซนติเมตร อีกทั้งโจทก์สละสิทธิบังคับคดีแล้ว เห็นว่า ตามข้ออ้างในคําร้องของ
จําเลยล้วนเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดําเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อ
บทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคําพิพากษาหรือคําสั่งตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๖ การยื่นคําร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีจึงต้องอยู่
ภายใต้เงื่อนไขของระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๖ วรรคสาม
ที่จําเลยฎีกาในทํานองว่า การยื่นคําร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีควรปรับบทบังคับ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗ เห็นว่า ตามบทบัญญัติ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในเรื่องการบังคับคดีในภาค ๔ ได้บัญญัติเรื่อง
การเพิกถอนการบังคับคดีไว้แล้ว ตามมาตรา ๒๙๖ ศาลย่อมมีอํานาจนํามาตรา ๒๙๖
มาปรับบทแก่คําร้องในคดีนี้ได้ ไม่จําต้องอ้างมาตรา ๒๗ มาประกอบด้วยก็ได้ ที่ศาลอุทธรณ์
เห็นว่า คําร้องของจําเลยที่ขอให้เพิกถอนการบังคับคดีต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของระยะเวลา
ตามมาตรา ๒๙๖ วรรคสาม ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาข้อนี้ของจําเลยฟงงไม่ขึ้น
ปงญหาที่ต้องวินิจฉัยประการต่อไปมีว่า จําเลยยื่นคําร้องขอให้เพิกถอน
การบังคับคดีเกินกําหนดระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๙๖ วรรคสาม หรือไม่ เห็นว่า ตามมาตรา ๒๙๖ วรรคสาม บัญญัติไว้ว่า
“การยื่นคําร้องตามมาตรานี้อาจกระทําได้ไม่ว่าในเวลาใดก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง
แต่ต้องไม่ช้ากว่าสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่ง
ข้ออ้างนั้น...” ข้อเท็จจริงได้ความว่าในการรื้อถอนอาคารของจําเลยครั้งสุดท้าย
เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เจ้าพนักงานบังคับคดีพบนายสมชาย ซึ่งเป็น
คู่ความแทนที่จําเลยคดีนี้ โดยนายสมชายรับรู้ในเรื่องการรื้อถอนมาโดยตลอด
จึงถือได้ว่านายสมชายทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนับตั้งแต่
วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เมื่อจําเลยเพิ่งมายื่นคําร้องในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๒
ย่อมเป็นการยื่นคําร้องที่เกินกําหนดระยะเวลาตามกฎหมายแล้ว ส่วนที่จําเลยฎีกาว่า