Page 97 - 2557 เล่ม 1
P. 97
๙๗
ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๑๑๗/๒๕๕๗ นางพรรณี พรพนาทรัพย์ โจทก์
นางรานี ทรัพย์คงอยู่
โดยนายสมชาย พรบริรักษ์
ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน จ าเลย
ป.วิ.พ. กระบวนพิจารณาผิดระเบียบ, บังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย มาตรา ๒ ๗ , ๒๙๖ วรรคสาม
ข้ออ้างในค าร้องของจ าเลยล้วนเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดี
ด าเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามค าพิพากษา
หรือค าสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๙๖ การยื่นค าร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดี
จึงต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของระยะเวลาตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๙๖ วรรคสาม
เมื่อบทบัญญัติ ป.วิ.พ. ในเรื่องการบังคับคดีในภาค ๔ ได้บัญญัติเรื่องการเพิกถอน
การบังคับคดีไว้แล้วตามมาตรา ๒๙๖ ศาลย่อมมีอ านาจน ามาตรา ๒๙๖
มาปรับบทแก่ค าร้องในคดีนี้ได้ ไม่จ าต้องอ้างมาตรา ๒๗ มาประกอบด้วยก็ได้
ป.วิ.พ. มาตรา ๒๙๖ วรรคสาม บัญญัติไว้ว่า “การยื่นค าร้องตาม
มาตรานี้อาจกระท าได้ไม่ว่าในเวลาใดก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้อง
ไม่ช้ากว่าสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่ง
ข้ออ้างนั้น...” ข้อเท็จจริงได้ความว่าในการรื้อถอนอาคารของจ าเลยครั้งสุดท้าย
เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เจ้าพนักงานบังคับคดีพบ ส. ซึ่งเป็นคู่ความแทนที่
จ าเลยคดีนี้ โดย ส. รับรู้ในเรื่องการรื้อถอนมาโดยตลอด จึงถือได้ว่า ส. ทราบ
ข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนับตั้งแต่วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
เมื่อจ าเลยเพิ่งมายื่นค าร้องในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๒ย่อมเป็นการยื่นค าร้อง
ที่เกินก าหนดระยะเวลาตามกฎหมายแล้ว ส่วนที่ในค าพิพากษาของ
ศาลอุทธรณ์ระบุว่าจ าเลยมายื่นค าร้องเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๑ ก็เป็น
เพียงความผิดพลาดเล็กน้อยของการพิมพ์ตัวเลข พ.ศ.หาเป็นเหตุให้ฟังว่าจ าเลย
ยื่นค าร้องภายในก าหนดแต่ประการใดไม่