Page 98 - 2557 เล่ม 1
P. 98
๙๘
______________________
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จําเลยรื้อถอนอาคารไม่มีเลขที่
เฉพาะส่วนที่รุกล้ําออกไปจากที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ ๒๑๙๔๐๖ ตําบลบางจาก
อําเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร และทําให้ที่ดินของโจทก์อยู่ในสภาพเดิมโดย
จําเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย หากจําเลยไม่ยอมรื้อถอน ให้โจทก์ดําเนินการรื้อถอน
โดยจําเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น
จําเลยยื่นคําร้องว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดีตามคําพิพากษาของศาล
โดยโจทก์นําเจ้าพนักงานบังคับคดีดําเนินการรื้อถอนอาคารของจําเลยหลายครั้ง
และไม่มีการบันทึกไว้ว่ารื้อถอนอาคารแล้วเป็นระยะเท่าใด คิดเป็นเนื้อที่ดินเท่าใด
แต่เห็นได้ชัดว่าโจทก์บังคับคดีเกินกว่าคําพิพากษาของศาลชั้นต้น จึงเป็นการบังคับคดี
ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์สละสิทธิบังคับคดีแล้ว เพราะไม่สามารถดําเนิน
การบังคับคดีภายในเวลาที่กําหนด คําแถลงของโจทก์ต้องผูกพันตัวโจทก์ ต่อมา
โจทก์กลับแถลงต่อศาลว่าประสงค์จะดําเนินการบังคับคดีแก่จําเลยต่อไป หลังจากนั้น
จึงบังคับคดีรื้อถอนอาคารของจําเลย โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะดําเนินการบังคับคดีได้อีก
การดําเนินการบังคับคดีต่อมาจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์และจําเลยตกลง
ประนีประนอมยอมความกันไม่ได้เนื่องจากที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่ไม่ครบถ้วน
ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๑๙๔๐๖ ตําบลบางจาก อําเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร
การบังคับคดีของโจทก์มุ่งให้ตนเองได้ที่ดินครบถ้วนตามสัญญาซื้อขายระหว่าง
โจทก์กับจําเลย หาใช่การรื้อถอนอาคารของจําเลยส่วนที่รุกล้ําตามคําพิพากษาของ
ศาลชั้นต้นไม่ ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งอาคารของจําเลยส่วนที่โจทก์จะรื้อถอนมีเนื้อที่
เท่ากับที่ดินที่โจทก์จะได้รับไม่ครบถ้วนตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๑๙๔๐๖ ตําบลบางจาก
อําเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร ที่ดินที่ซื้อขายกันต้องยึดถือตามหลักเขตที่
เจ้าพนักงานที่ดินปงกเพื่อเป็นหลักยึดโยงแนวเขตที่ดินในขณะรังวัดแบ่งแยก หาใช่
เนื้อที่ตามที่ระบุในโฉนดที่ดินไม่ กรณีจึงเห็นได้ชัดว่าจําเลยรื้อถอนอาคารของ
จําเลยส่วนที่รุกล้ําออกจากที่ดินโจทก์ครบถ้วนแล้วก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา
ที่โจทก์ได้ที่ดินที่ซื้อจากจําเลยครบถ้วนตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๑๙๔๐๖ ตําบลบางจาก
อําเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร หรือไม่ เป็นเรื่องสัญญาซื้อขายซึ่งโจทก์จะต้อง