Page 122 - 2557 เล่ม 1
P. 122
๑๒๒
ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๖๙๙/๒๕๕๗ พนักงานอัยการ
สํานักงานอัยการสูงสุด โจทก์
นายปิยะณัฐ แสงปก ผู้ร้อง
นายสําเริงหรือต้อม
ปลายสันเทียะ กับพวก จ าเลย
ป.วิ.อ. การอ่านคําพิพากษา, จําเลย, คู่ความ มาตรา ๑๘๒ วรรคสอง วรรคสาม,
มาตรา ๒ (๓), (๑๕)
ป.วิ.อ. มาตรา ๑๘๒ วรรคสองและวรรคสาม ก าหนดให้ศาลอ่าน
ค าพิพากษาในศาลต่อหน้าคู่ความโดยเปิดเผย เมื่ออ่านแล้วให้คู่ความ
ลงลายมือชื่อไว้ และมาตรา ๒ (๑๕) ได้ให้ค าจ ากัดความของค าว่า คู่ความ
ไว้ว่า หมายความถึง โจทก์ฝ่ายหนึ่งและจ าเลยอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งมาตรา ๒ (๓)
จ าเลย หมายความถึงบุคคลซึ่งถูกฟ้องยังศาลแล้วโดยข้อหาว่าได้กระท า
ความผิด ดังนั้น ทนายจ าเลยที่ ๑ จึงมิได้เป็นจ าเลยหรือเป็นคู่ความ
ตามบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นอ่านค าพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ให้จ าเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นคู่ความในคดีฟังและให้จ าเลยที่ ๑
ลงลายมือชื่อไว้แล้ว จึงเป็นการด าเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอ่าน
ค าพิพากษาโดยชอบแล้ว ไม่มีเหตุผลยกเลิกการอ่านค าพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ ส่วนการที่ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดให้ผู้ร้องและทนายผู้ร้องมาฟัง
ค าพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็หาเป็นเหตุให้การอ่านค าพิพากษาศาลอุทธรณ์
ให้จ าเลยที่ ๑ ฟัง ซึ่งชอบด้วยกฎหมายกลับกลายเป็นไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่
______________________
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจําเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๗๑, ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๘๐, ๘๓ รวมโทษทุกกระทงแล้ว จําคุก ๑๒ ปี และปรับ
๑๐๐ บาท หากไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ ในคดี