Page 60 - 2557 เล่ม 1
P. 60
๖๐
การกระทํากรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า
ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จําคุกจําเลยที่ ๑
มีกําหนด ๑๐ ปี จําคุกจําเลยที่ ๒ และที่ ๓ คนละ ๒ ปี ทางนําสืบของจําเลยที่ ๑
เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจําคุกจําเลยที่ ๑ มีกําหนด ๖ ปี ๘ เดือน
เมื่อไม่ปรากฏว่าจําเลยที่ ๒ และที่ ๓ ได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกของ
จําเลยที่ ๒ และที่ ๓ ให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๕๖
โจทก์และจําเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จําเลยที่ ๑ ตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจําคุก ๕ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไป
ตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น
จําเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจําเลยที่ ๑ มีความผิดตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๘๐, ๒๙๕, ๘๓ การกระทํา
ของจําเลยที่ ๑ เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า
ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จําคุก ๑๐ ปี ลดโทษให้จําเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๗๘ หนึ่งในสาม คงจําคุก ๖ ปี ๘ เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษาแก้
เป็นว่า ลดโทษจําเลยที่ ๑ กึ่งหนึ่ง คงจําคุก ๕ ปี เป็นการที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๘
พิพากษาแก้โทษจําคุกที่ลงจาก ๖ ปี ๘ เดือน เป็น ๕ ปี จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์
ภาค ๘ แก้ไขเล็กน้อยและยังคงให้ลงโทษจําคุกจําเลยที่ ๑ ไม่เกินห้าปี จึงต้องห้าม
มิให้จําเลยที่ ๑ ฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง ฎีกาของจําเลยที่ ๑ โต้แย้งว่าการกระทําของจําเลยที่ ๑
เป็นการกระทําโดยเจตนาทําร้ายจําเลยที่ ๓ เท่านั้น มิได้มีเจตนาฆ่า และขอให้
ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจําเลยที่ ๑ ด้วย จึงเป็นฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง
ต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาจําเลยที่ ๑ ส่งขึ้นมา