Page 64 - 2557 เล่ม 1
P. 64
๖๔
เป็นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๗๙๘/๒๕๕๐ ของศาลจังหวัดลพบุรี จําเลยทั้งแปดรังวัด
แบ่งแยกที่ดินออกเป็น ๘ โฉนด โดยรวมเอาที่ดินของโจทก์ทั้งสองไปด้วย ขอให้
พิพากษาว่า โจทก์ที่ ๑ ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินเนื้อที่ ๑ งาน ๘๘ ตารางวา ภายในขอบ
เส้นสีเขียวของที่ดินจําเลยที่ ๑ โฉนดเลขที่ ๒๖๙๖๗ ตําบลหัวสําโรง อําเภอท่าวุ้ง
จังหวัดลพบุรี โจทก์ที่ ๒ ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินเนื้อที่ ๒ งาน ๒๒ ตารางวา ภายในขอบ
เส้นสีน้ําเงินของที่ดินจําเลยที่ ๒ และที่ ๓ โฉนดเลขที่ ๒๖๙๖๘ และเลขที่ ๒๖๙๖๙
ตําบลหัวสําโรง อําเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ตามลําดับ โดยการครอบครอง ให้เพิกถอน
สัญญาประนีประนอมยอมความตามคําพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๗๙๘/๒๕๕๐
ของศาลจังหวัดลพบุรี และเพิกถอนการจดทะเบียนรับโอนที่ดินของจําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓
ให้จําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ รังวัดแบ่งแยกที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสอง หากจําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓
ไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคําพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓
จําเลยทั้งแปดให้การและแก้ไขคําให้การว่าเมื่อปี ๒๕๐๘ นางวัง มารดาของ
จําเลยที่ ๓ ซื้อที่ดินพิพาทมาจากนางเทียม ปี ๒๕๑๕ นางวังขายที่ดินเนื้อที่ ๒ งาน
ให้แก่นายไกรกับนางบุญมา บิดามารดาของจําเลยที่ ๑ โดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
ในปี ๒๕๑๗ โจทก์ที่ ๑ อยู่ในที่ดินโดยอาศัยสิทธิของนายไกรกับนางบุญมา ต่อมา
จําเลยที่ ๑ รับการยกให้ที่ดินจากนายไกรและได้รับมรดกจากนางบุญมา โจทก์ที่ ๑
มิได้แสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงการยึดถือครอบครองที่ดินแต่อย่างใด ปี ๒๕๒๑
นางวังขายที่ดินบางส่วนให้จําเลยที่ ๗ ที่ ๘ และนางสังเวียน ที่ดินส่วนของ
นางสังเวียนเป็นมรดกตกแก่จําเลยที่ ๔ ที่ ๕ และที่ ๖ ภายหลังที่ดินของนางวัง
ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่จําเลยที่ ๓ ปี ๒๕๕๐ จําเลยที่ ๓ ขายที่ดินให้แก่จําเลยที่ ๒
เนื้อที่ ๓ งานเศษ นายไกร นางบุญมา จําเลยที่ ๒ ที่ ๗ ที่ ๘ และนางสังเวียน ซื้อที่ดิน
โดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต นางภู นางเรียนและ
นายกลึงไม่เคยอยู่ในที่ดินพิพาท นางเปลื้องขออยู่ในที่ดินที่นางวังซื้อมาโดยอาศัยสิทธิ
ของนางวังและจําเลยที่ ๓ หลังจากนางเปลื้องถึงแก่ความตาย นางลพครอบครอง
ที่ดินแปลงดังกล่าวซึ่งรวมที่ดินพิพาทส่วนที่โจทก์ที่ ๒ ฟ้องคดีนี้ โดยอาศัยสิทธิของ
จําเลยที่ ๓ โจทก์ที่ ๒ ไม่เคยครอบครองทําประโยชน์ในที่ดินพิพาท โจทก์ทั้งสอง
ไม่มีอํานาจฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์ที่ ๑ มิได้