Page 67 - 2557 เล่ม 1
P. 67

๖๗



                      มีปงญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของโจทก์ที่ ๒ ว่า โจทก์ที่ ๒ ได้
               กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนของจําเลยที่ ๒ และที่ ๓ ในแนวเส้นสีแดงตามแผนที่พิพาท

               โดยการครอบครองปรปงกษ์หรือไม่ ที่โจทก์ที่ ๒ ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ นําข้อเท็จจริง

               และคําพิพากษาในคดีอาญามาวินิจฉัยแล้วพิจารณายกฟ้องโจทก์ที่ ๒ ในคดีนี้
               จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง

               จําเลยที่ ๓ กับพวกในความผิดฐานบุกรุกและทําให้เสียทรัพย์ พนักงานอัยการ

               บรรยายฟ้องว่า จําเลยที่ ๓ กับพวกร่วมกันบุกรุกเข้าไปบริเวณบ้านพักเลขที่ ๒๙
               หมู่ที่ ๑๔ ตําบลหัวสําโรง อําเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี อันเป็นอสังหาริมทรัพย์และ

               เคหสถานที่อยู่อาศัยเป็นของนางเขียน โจทก์ที่ ๒ ในคดีนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตและ

               ไม่มีเหตุสมควร แล้วร่วมกันรื้อถอนบ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งเป็นการกระทําการใด ๆ
               อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษ

               จําเลยที่ ๓ กับพวกตามกฎหมาย โจทก์ที่ ๒ เข้าเป็นโจทก์ร่วม จําเลยที่ ๓ กับพวก
               ให้การปฏิเสธคดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่า บ้านเลขที่ ๒๙ หมู่ที่ ๑๔ ตําบลหัวสําโรง

               อําเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เป็นอสังหาริมทรัพย์และเคหสถานที่อยู่อาศัยของโจทก์

               ที่ ๒ หรือไม่  ศาลจังหวัดลพบุรีพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ร่วม (โจทก์ที่ ๒ ) มิได้พัก
               อาศัยอยู่ที่บ้านเกิดเหตุ โดยแยกครอบครัวไปอยู่กับสามีที่ตลาดท่าวุ้งตั้งแต่โจทก์ร่วม

               อายุ ๒๕ หรือ ๒๖ ปี พยานหลักฐานที่โจทก์และโจทก์ร่วมนําสืบมารับฟงงไม่ได้ว่า

               โจทก์ร่วมเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุจึงพิพากษายกฟ้องและยกคําขอให้ชดใช้
               ค่าเสียหายของโจทก์ร่วม และศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน คดีนี้โจทก์ที่ ๒

               ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปงกษ์อ้างว่า

               โจทก์ที่ ๒ อยู่อาศัยที่บ้านเลขที่ ๒๙ หมู่ที่ ๑๔ ตําบลหัวสําโรง อําเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
               ซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ

               ติดต่อกันมาเป็นเวลาสิบปี ซึ่งมีประเด็นว่า โจทก์ที่ ๒ ได้ครอบครองที่ดินพิพาท

               โดยการอยู่อาศัยที่บ้านดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันกับประเด็นใน
               คดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจําเลยที่ ๓ กับพวก เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค ๑

               ฟงงว่า นางเปลื้องมารดาโจทก์ที่ ๒ มิได้ยกบ้านให้แก่โจทก์ที่ ๒ บ้านที่เกิดเหตุไม่ใช่

               ของโจทก์ที่ ๒ และโจทก์ที่ ๒ เข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72