Page 90 - รายงานประจำปี 2562
P. 90

ำ
                                                                               ็
                                                                 ำ
                                                                                                 ี
                                                                                           ั
                                                                             ี

                                                                                                         ึ
            อีกนาน ๓ ปี ๕ เดือน ๑๗ วันแล้วออกจากราชการอีก  กระทาการกระทาท่เปนความผิดวินย แต่อกศาลหน่ง
                         ี
                                             ั
            ระหว่างช่วงท่กลับเข้ารับราชการน้นผู้รับทุนฟ้อง  เห็นว่า นาย ก ไม่ได้เป็นผู้กระทำาการกระทำาเดียวกัน
                                                              ี
                          ื
            ศาลปกครองเพ่อขอให้ส่วนราชการทำาสัญญาผ่อนผัน ท่เป็นเหตุให้ต้องถูกลงโทษทางวินัยและต้องถูกลงโทษ
                                                                        ี
            การชดใช้ทุนคืนตามคำาพิพากษาศาลฎีกา ศาลปกครอง  ทางอาญา ทั้งท่รับฟังจากพยานหลักฐานหลักชุดเดียวกัน
            สูงสุดให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี  แล้วให้หัก กรณีเช่นนี้ย่อมชัดแจ้งว่าเป็นการ “ขัดแย้งกันในข้อเท็จจริง
                       ี
                                                                   ื
            ระยะเวลาท่กลับเข้ารับราชการเป็นการชดใช้ทุนด้วย   ท่เป็นเร่องเดียวกัน” และกอให้เกิดผลท่ประหลาด
                                                              ี
                                                                                                ี
                                                                                     ่
                                                                                                        ื
                                                             ึ
            คณะกรรมการวินิจฉัยว่า เม่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า  ซ่งกระทบต่อความเป็นธรรมอย่างชัดเจน ไม่เป็นไปเพ่อ
                                      ื
            ศาลปกครองพิพากษาให้ผู้รับทุนชนะคดีโดยให้นับ ประโยชน์แห่งความยุติธรรม กรณีจะต้องถือตามข้อเท็จจริง
            ระยะเวลาท่ขอกลับเข้ารับราชการเป็นระยะเวลาปฏิบัต ของศาลใดโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ในการปฏิบัติตาม
                                                                          ำ
                      ี
                                                          ิ
            ราชการชดใช้ทนตามสัญญาลาศึกษาได้ แต่การปฏิบัต คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลเป็นอำานาจของคณะกรรมการ
                         ุ
                                                          ิ
            ตามคำาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเป็นหน้าท ที่จะต้องวินิจฉัย
                                                          ่
                                                          ี
                                 ี
            ของผู้รับทุนและผู้ร้องท่จะต้องปฏิบัติการทำาสัญญา       ในประเทศฝรั่งเศสที่เป็นต้นแบบของระบบศาลคู่
            ผ่อนผันต่อกันเสียก่อนด้วย จึงจะมีผลให้ถือว่าระยะเวลา   ในประเทศไทยใหอานาจศาลคดขดกนเปนผแกปญหานี  ้
                                                                                              ็
                                                                           ้
                                                                            ำ
                                                                                                    ั
                                                                                                   ้
                                                                                       ี
                                                                                          ั
                                                                                                ู
                                                                                        ั
                                                                                                ้
                                           ี
                     ี
              ั
            ต้งแต่วันท่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๔๐ ถึงวันท่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔    ซ่งเช่อว่าจะเป็นพัฒนาการของความเป็นธรรมในระบบ
                                                                ื
                                                             ึ
            เป็นระยะเวลาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามสัญญา       ศาลไทย
            ลาศึกษาอันจะนำาไปหักกับหน้ตามคำาพิพากษาของ
                                       ี
                                                                              ้
                                                                         ิ
                                                                                              ี
                                                                                              ่
                                                                     ำ
                                                                   คาวนจฉยชขาดอำานาจหน้าทระหว่างศาล
                                                                       ิ
                                                                              ี
                                                                           ั
                              ื
                           ั
            ศาลฎีกาได้ ดังน้นเม่อปรากฏว่ายังไม่มีการทำาสัญญา  ที่ ๑๙/๒๕๕๒ นี้เป็นกรณีที่ทำาให้คำาว่า “ประโยชน์แห่ง
            ผ่อนผัน เพ่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและเพ่อให้การ  ความยุติธรรม” ชัดแจ้งเป็นท่ประจักษ์ว่าพระราชบัญญัต  ิ
                                                   ื
                     ื
                                                                                    ี
                                    ั
            ปฏิบัติตามคำาพิพากษาของท้งสองศาลเป็นไปได้ จึงเห็น  ว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอำานาจหน้าท่ระหว่างศาล พ.ศ.
                                                                                           ี
                                                                            ี
            สมควรให้ผู้ร้องบังคับคดีตามคำาพิพากษาของศาลฎีกา  ๒๕๔๒ มาตรา ๑๔ น้นเป็นเคร่องมือสำาคัญในการ
                                                                                ั
                                                                                         ื
                                                    ิ
                                           ั
                                                 ำ
                      ื
                               ำ
                                 ั
                          ี
            ก่อน ต่อเม่อได้มการทาสญญาผ่อนผนตามคาพพากษา      อำานวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างแท้จริง แม้ตาม
                                                   ี
            ของศาลปกครองสูงสุดจึงให้นับระยะเวลาท่ผู้รับทุน   คำาวินิจฉัยน้จะเป็นการวินิจฉัยกรณีท่เป็นคำาพิพากษา
                                                                                            ี
                                                                      ี
            ขอกลับเข้ารับราชการต้งแต่วันท่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๔๐ ถึงวันท  ี ่    ในส่วนแพ่งเช่นเดียวกันท่โดยทฤษฎีมีระดับมาตรฐาน
                              ั
                                     ี
                                                                                  ี
            ๙ เมษายน ๒๕๔๔ (รวมระยะเวลา ๓ ปี ๕ เดือน ๑๗ วัน)     การรับฟังพยานหลักฐานในระดับท่เทียบเท่ากันท่เพียง
                                                                                         ี
                                                                                                     ี
            เป็นระยะเวลาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามสัญญา       รับฟังว่าพยานหลักฐานฝ่ายใดมีนาหนักดีกว่า และหาก
                                                                                        ำ
                                                                                        ้
            ลาศึกษา โดยให้คำานวณระยะเวลาดังกล่าวเป็นจำานวนเงิน  มการปรบแก้ไขบทบัญญัตในมาตรานให้คณะกรรมการ
                                                                   ั
                                                                                           ี
                                                             ี
                                                                                           ้
                                                                                  ิ
                                            ี
            ตามสัญญาผ่อนผันแล้วนำาไปหักกับหน้ตามคำาพิพากษา  วินิจฉัยช้ขาดอำานาจหน้าท่ระหว่างศาลมีอำานาจในการ
                                                                                  ี
                                                                    ี
            ของศาลฎีกาและบังคับคดีในหน้ตามคำาพิพากษาของ     ทำาให้ “ข้อเท็จจริงที่เป็นเรื่องเดียวกัน” นั้น ไม่ถูกจำากัด
                                        ี
            ศาลฎีกาส่วนที่เหลือต่อไป                        ด้วยวิธีพิจารณาของศาลแต่ละระบบทำาให้คณะกรรมการ
                                   ำ
                     ำ
                                             ี
                              ี
                                                          ี
                    คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่  หรือแต่ละศาลแสวงหาข้อเท็จจริงที่เป็นเรื่องเดียวกันนั้น
                                ี
            ๑๙/๒๕๕๒ เป็นกรณีท่ยืนยันอย่างชัดเจนว่ากรณีตาม เข้าสู่สำานวนความของแต่ละศาลหรือโดยคณะกรรมการ
                                 ี
                                                                                      ื
                                                                 ื
            มาตรา ๑๔ ไม่ใช่กรณีท่ต้องเป็น “ประเด็น” เดียวกัน  เองเพ่อเป็น “ข้อเท็จจริงท่เป็นเร่องเดียวกัน” มีข้อเท็จจริง
                                                                                 ี
                                       ี
                        ี
                                            ื
            แต่เป็นกรณีท่เป็น “ข้อเท็จจริงท่เป็นเร่องเดียวกัน” ว่า  ท่เป็นเร่องเดียวกันโดยแท้และบริบูรณ์และเป็นผู้ใช้
                                                              ี
                                                                   ื
                         ี
                                              ี
            เม่อไม่มีเหตุท่จะเป็นกรณีผิดสัญญาท่จะต้องใช้ทุน  ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานอันนำาไปสู่ข้อเท็จจริง
              ื
                                                          ้
                                                          ี
                                              ื
                             ำ
                                                                                                 ี
                                                              ี
            ก็ไม่ต้องชดใช้ตามคาพิพากษาของศาลอ่น กรณีเช่นน  ท่ยุติด้วยมาตรฐานการรับฟังพยานหลักฐานท่ไม่มีศาลใด
                                                                                           ั
                                           ื
                                                                                ื
                                                          ี
                                                                            ี
            ควรท่จะต้องพิจารณารวมไปถึงกรณีอ่น ๆ ด้วยเช่นกรณีท  รับฟัง “ข้อเท็จจริงท่เป็นเร่องเดียวกัน” น้น “ขัดแย้งกัน” อีก
                 ี
                                                          ่
                         ำ
                                   ี
            เป็นการกระทาเดียวกันท่เป็นความผิดท้งวินัยและ  ในอันที่จะนำาไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย รวมทั้ง
                                                 ั
                               ิ
                                 ิ
                                   ั
                            ี
                       ั
                             ำ
            ทางอาญา ดงกรณคาวนจฉย (คาสง) ท ๑๕๙/๒๕๖๐  ให้คณะกรรมการมีอำานาจในการช้ขาดปัญหาข้อกฎหมาย
                                              ี
                                              ่
                                          ่
                                          ั
                                                                                       ี
                                       ำ
                                                                              ็
            ท่ได้กล่าวแล้ว รวมท้งเม่อศาลต่างระบบกันวินิจฉัยถึง  ทเกยวข้องกบข้อเทจจรงทเป็นเรองเดยวกันนนด้วย
              ี
                                                                                                    ั
                                                                       ั
                                                                ี
                                                                                                    ้
                                                              ่
                                                              ี
                                                                ่
                              ั
                                                                                    ี
                                                                                    ่
                                 ื
                                                                                         ื
                                                                                         ่
                                                                                              ี
                                                                                 ิ
                                      ึ
                     ำ
                                                          ู
            การกระทาเดียวกันโดยศาลหน่งเห็นว่า นาย ก เป็นผ จักเป็นคุณูปการแก่สังคมเป็นที่ยิ่ง
                                                          ้
       84     บทความที่น่าสนใจ
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95