Page 86 - รายงานประจำปี 2562
P. 86

๙
                                                                                  ๑๑
                                                                   ี
                                                          ี
                                                                                                         ั
            พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๖๕  ก็ได้บัญญัติให้อำานาจศาลในคด สมควรท่จะนามาตรา ๗๕  ของพระราชบัญญัติจัดต้ง
                                                                       ำ
                                                                              ิ
                           ั
              ั
                                                                                       ี
                                            ำ
                                                                            ิ
                                                                             ี
            ดงกล่าวแก้ไขข้อขดข้องได้ตามความจาเป็นและสมควร ศาลปกครองและวธพจารณาคดปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
                     ื
                                        ิ
                   ี
                     ่
            แก่กรณเพอประโยชน์แห่งความยุตธรรม กรณีตามคำาร้อง ซึ่งเป็นทางแก้ไขผลของคำาพิพากษาของศาลปกครองมาใช้
                                                          ี
                                 ี
                                                       ั
                                                          ่
                                                                                                 ำ
                                                                                          ี
            ของผู้ร้องจึงมิใช่ปัญหาเก่ยวกับคำาพิพากษาหรือคำาส่งท ด้วยหรือไม่ และหากนามาใช้กรณีท่อ้างว่าคาพิพากษา
                                                                               ำ
                ี
                                            ี
            ถึงท่สุดระหว่างศาลขัดแย้งกันในคดีท่มีข้อเท็จจริงเป็น ศาลปกครองขัดกับคำาพิพากษาศาลอื่นจะยกมาตรา ๗๕
              ื
            เร่องเดียวกัน จนเป็นเหตุให้คู่ความไม่ได้รับการเยียวยา ดังกล่าวมาเป็นเหตุผลในการวินิจฉัยทุกคดีด้วยหรือไม ่
            ความเสียหาย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม อันจะเข้า  เพราะสามารถใช้ได้กว้างขวางกว่ากรณีตามมาตรา ๖๕
                                                                                         ู
            องค์ประกอบของบทบัญญัติมาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง แห่ง ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผ้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑
                                           ี
                                                          ี
                                                          ่
                                                                             ิ
                                                                        ั
                                                                            ั
                                                                                    ้
                                                                                    ื
                                                                                              ้
            พระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอำานาจหน้าท (และพระราชบญญตการรอฟนคดอาญาขนพิจารณาใหม       ่
                                                                                        ี
                                                                                 ้
                                                                                              ึ
                                                                                 ื
            ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่คณะกรรมการจะรับคำาร้อง พ.ศ. ๒๕๒๖) รวมทั้งระยะเวลา ๖๐ วันตามที่พระราช
            ของผู้ร้องไว้พิจารณาได้                         บัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล
                                                                                  ี
                                                                                                ี
                                                                                      ำ
                                                                                     ำ
                                                                                             ั
                         ำ
                                 ี
                                                ี
                                      ำ
                    กรณีคาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล   พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๔ กาหนดไว้น้น มี ๕ ใน ๖
                                                             ำ
                                                                      ี
            (คำาสั่ง) ที่ ๒๔/๒๕๖๒ นี้นอกจากการจำากัดขอบเขตของ  คาวินิจฉัยท่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นกรณีตามมาตรา ๑๔
              ำ
                                   ื
                             ี
            คาว่า “ข้อเท็จจริงท่เป็นเร่องเดียวกัน” ให้แคบลงเป็น     และรับวินิจฉัยให้แม้จะยื่นคำาร้องมาเมื่อพ้นเวลา ๖๐ วัน
                                                                                      ี
                                                                       ำ
                                                      ื
                                             ำ
            “ประเด็นเดียวกัน” ทานองเดียวกับคาวินิจฉัยอ่น ๆ    แล้วก็ตาม กาหนด ๖๐ วันน้จะถูกขยายออกไปเป็น
                                ำ
                                                                                                         ั
                                                        ๑๐
                               ี
                                      ำ
                            ื
                     ำ
                 ั
            รวมท้งในคาวินิจฉัยอ่นท่แม้จะใช้คาว่า “มูลความแห่งคดี”      ต้องรอจนกว่าจะพ้นเวลาห้าปีตามพระราชบัญญัติจัดต้ง
                                                                            ิ
                                                                             ี
                                                                              ิ
                                                                                       ี
                    ำ
              ี
                                          ำ
            ท่น่าจะทาให้มีขอบเขตท่กว้างกว่าคาว่า “ข้อเท็จจริงท ี ่  ศาลปกครองและวธพจารณาคดปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
                                 ี
                 ื
                                   ำ
                                ื
            เป็นเร่องเดียวกัน” แต่เม่อนาไปใช้รวมกันเป็น “มูลความ  มาตรา ๗๕ หรือจนกว่าศาลในคดีผู้บริโภคจะดำาเนินการ
                                                                                                 ำ
                                                                                    ึ
                                                    ำ
                                                      ี
                                    ำ
            แห่งคดีและประเด็นพิพาท” ทาให้กลายเป็นถ้อยคาท่ต้อง  ตามมาตรา ๖๕ ดังกล่าว ซ่งไม่อาจทราบกาหนดเวลา
            ศึกษากันต่อไปว่ามีความหมายท่แท้จริงอย่างไร นอกจาก  ท่แน่นอน (ท้งน้อาจต้องถูกจากัดด้วยระยะเวลาในการ
                                                                                    ำ
                                                                       ั
                                                              ี
                                                                          ี
                                      ี
            กรณีดังกล่าวแล้วยังมีการนามาตรการตามพระราชบัญญัต  บังคับคดี) กล่าวคือต้องรอจนไม่สามารถเยียวยาด้วยวิธ ี
                                                          ิ
                                  ำ
            วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๖๕ ที่เป็น อ่นแล้วจึงค่อยมาใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการ
                                                             ื
                                                                         ำ
                                                                    ี
                                                                                   ี
            ทางแก้ไขผลคาพิพากษามาเป็นเหตุผลส่วนหน่งของ วินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒
                                                     ึ
                         ำ
                                                                                        ั
                                                                         ี
            เหตุยกคาร้องกรณีคาพิพากษาขัดกันตามมาตรา ๑๔  มาตรา ๑๔ น้ด้วยหรือไม่ รวมท้งหากยังคงเหตุผลว่า
                    ำ
                              ำ
            ด้วย ซึ่งทำาให้มีข้อสังเกตแทรกซ้อนเข้ามาได้อีกว่า กรณี คาพิพากษามีผลผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมาย
                                                             ำ
            ๙
               มาตรา ๖๕ ภายหลังที่ได้มีคำาพิพากษาถึงที่สุดในคดีผู้บริโภคแล้ว หากความปรากฏแก่ศาลว่ามีข้อขัดข้องทำาให้ไม่อาจดำาเนินการบังคับคดี
            ตามคาพิพากษาได้หรือมีความจาเป็นต้องกาหนดวิธีการอย่างหน่งอย่างใดเพ่อบังคับให้เป็นไปตามคาพิพากษา ให้ศาลมีอานาจออกคาส่งเพ่อ
                ำ
                                                       ึ
                                                                                                    ำ
                                         ำ
                                                                              ำ
                                                                                             ำ
                                                                                                      ั
                                  ำ
                                                                                                         ื
                                                               ื
            แก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าวตามความจำาเป็นและสมควรแก่กรณีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
            ๑๐  ป.วิ.พ. มาตรา ๑๕๐ วรรคห้า และใช้ในคำาวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาลอีกหลายคำาวินิจฉัย
            ๑๑
                                                     ั
                             ี
                                         ำ
                                                   ำ
                                                                                               ู
               มาตรา ๗๕ ในกรณีท่ศาลปกครองได้มีคาพิพากษาหรือคาส่งช้ขาดคดีปกครองเสร็จเด็ดขาดแล้ว ค่กรณีหรือบุคคลภายนอกผ้มีส่วนได้เสียหรือ
                                                       ี
                                                                              ู
            อาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนั้นอาจมีคำาขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำาสั่งชี้ขาดคดีปกครองนั้นใหม่ได้ในกรณี ดังต่อไปนี้
                                                                                     ั
              (๑) ศาลปกครองฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดหรือมีพยานหลักฐานใหม่ อันอาจทาให้ข้อเท็จจริงท่ฟังเป็นยุติแล้วน้นเปล่ยนแปลงไปในสาระสาคัญ
                                                                           ี
                                                                                         ี
                                                                ำ
                                                                                                      ำ
              (๒) คู่กรณีที่แท้จริงหรือบุคคลภายนอกนั้นมิได้เข้ามาในการดำาเนินกระบวนพิจารณาคดีหรือได้เข้ามาแล้วแต่ถูกตัดโอกาสโดยไม่เป็นธรรม
            ในการมีส่วนร่วมในการดำาเนินกระบวนพิจารณา
              (๓) มีข้อบกพร่องสำาคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำาให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม
              (๔) คำาพิพากษาหรือคำาสั่งนั้นได้ทำาขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใด และต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปใน
            สาระสำาคัญซึ่งทำาให้ผลแห่งคำาพิพากษาหรือคำาสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น
                   ื
                                                                              ั
                                                  ู
                                                                                             ั
                                ึ
                     ำ
                                                                                               ี
                                        ำ
                                                ื
              การย่นคาขอตามวรรคหน่ง ให้กระทาได้เฉพาะเม่อค่กรณีหรือบุคคลภายนอกไม่ทราบถึงเหตุน้นในการพิจารณาคดีคร้งท่แล้วมา โดยมิใช ่
            ความผิดของผู้นั้น
                                            ำ
                                              ั
                                                        ำ
              การย่นคาขอให้พิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคาส่งใหม่ต้องกระทาภายในเก้าสิบวันนับแต่วันท่ผ้น้นได้ร้หรือควรร้ถึงเหตุซ่งอาจขอให้พิจารณา
                   ื
                     ำ
                                                                                 ู
                                                                                       ู
                                                                                            ึ
                                                                           ี
                                                                            ู
                                                                             ั
            พิพากษาหรือมีคำาสั่งใหม่ได้ แต่ไม่เกินห้าปีนับแต่ศาลปกครองได้มีคำาพิพากษาหรือคำาสั่งชี้ขาด
       80     บทความที่น่าสนใจ
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91