Page 85 - รายงานประจำปี 2562
P. 85

คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล




                              ำ
                                                     ำ
                                                                                                           ั
                                                                       ำ
                         ู
                                                                               ี
                                                                                             ี
                                                                                                         ำ
                                         ี
                                                                                   ำ
               ของรัฐเป็นผ้กระทาการกระทาท่เป็นการกระทาเดียวกับ (ในกรณีคาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล (คาส่ง)
                                       ำ
                 ี
               ท่ถูกฟ้องเป็นคดีอาญา จึงเป็นข้อสังเกตถึงความผูกพัน ท่ ๒/๒๕๖๐ ด้วย) ว่ามีผลต่อแต่ละคดีอย่างไร ซ่งเป็น
                                                                                                        ึ
                                                                ี
                                 ำ
                                           ี
               ของข้อเท็จจริงท่ผ้มีอานาจหน้าท่โดยตรงเป็นผ้วินิจฉัย เรื่องที่จะได้กล่าวถึงในโอกาสต่อไป
                             ี
                              ู
                                                      ู
                                                           ี
               และวินิจฉัยด้วยมาตรฐานการรับฟังพยานหลักฐานท่ม ี        กรณีคำาวินิจฉัยช้ขาดอำานาจหน้าท่ระหว่างศาล
                                                                                                  ี
                                                                                    ี
               ระดับต่างกันนั้นด้วย                            (คำาสั่ง) ที่ ๒๔/๒๕๖๒ ตามคำาพิพากษาของศาลอุทธรณ์
                                                                                      ี
                            ำ
                      การท่คาพิพากษาขัดแย้งหรือแตกต่างกัน ล้วน เป็นการวินิจฉัยข้อพิพาทเก่ยวกับสิทธิและหน้าท่ตาม
                                                                                                         ี
                           ี
                 ิ
                                                                ั
                                                                                            ุ
                                                                                                    ู
                                                                                                     ้
                                                                                                     ื
                                                                                               ่
                                                                                               ึ
               เร่มต้นจากการใช้ดุลพินิจในการรับฟังพยานของศาล สญญาระหว่างเจ้าของร่วมในอาคารชดซงเป็นผ้ซอห้องชด
                                                                                                           ุ
                                                          ู
                                   ิ
                                 ั
                                                        ี
               ของศาลแต่ละระบบท้งส้นและการโต้แย้งดุลพินิจน้อย่ใน กับบริษัทจำาเลย  ซ่งเป็นผู้ขายตามพระราชบัญญัต  ิ
                                                                                ึ
                                                       ่
                         ั
                                                    ่
                              ้
                                                  ิ
                                         ื
                ่
                    ี
                                                    ี
                      ็
                                  ็
               สวนท่เปนปญหาขอเทจจริง เม่อข้อเท็จจรงทแตละศาล  วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งผู้ร้องเป็นจำาเลย
               ใช้ดุลพินิจรับฟังเป็นยุตินั้นถูกใช้เป็นฐานในการปรับเข้ากับ  ในคดีดังกล่าวได้โฆษณาโครงการโดยระบุอย่างชัดแจ้ง
                                                ั
                           ื
                                      ำ
               ข้อกฎหมายเพ่อให้มีผลเป็นคาพิพากษา ท้งตามมาตรา ๑๔   ว่าอาคารชุดตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๑๓ และ ๔๑๔
                                                        ั
                                                    ิ
                                             ้
                                 ้
                                                      ี
                                                      ่
                  ั
                        ึ
                       ิ
                                                            ้
                ็
               กบญญัตถงการโต้แยงในส่วนของขอเท็จจรงทขดแยง และในการขออนุญาตก่อสร้างโครงการอาคารชุดดังกล่าว

                      ้
                                       ี
                ั
                    ิ
                                  ่
                                  ี
                                                           ั
                            ึ
                                                        ่
                         ่
               กน มไดกลาวถงการทศาลตความกฎหมายแตกตางกน  ก็ระบุว่า เป็นการก่อสร้างในที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๑๓ และ
                                                           ั
                               ี
                                   ำ
                       ำ
                                             ี
                                                         ำ
               ดังกรณีคาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล (คาส่ง)   ๔๑๔ จึงถือเป็นส่วนหน่งของสัญญาและผูกพันผู้ร้อง
                                                                                    ึ
                                       ี
                                                    ี
               ท่ ๑๒/๒๕๔๖ (ซ่งเป็นข้อท่ต้องศึกษาโดยถ่ถ้วนต่อไป)   ให้ต้องปฏิบัติตาม ส่วนคำาพิพากษาของศาลปกครองกลาง
                              ึ
                 ี
               เฉพาะในส่วนของข้อเท็จจริงท่เป็นเร่องเดียวกันท่เกิดจาก  หมายเลขแดงท่ ๑๖๓๘/๒๕๖๑ เป็นการวินิจฉัยข้อพิพาท
                                                      ี
                                       ี
                                            ื
                                                                           ี
               การใช้ดุลพินิจของศาล เป็นกรณีที่มาตรา ๑๔ กำาหนดให้  ตามพระราชบญญัตอาคารชด พ.ศ. ๒๕๒๒ ว่า การจด
                                                                           ั
                                                                                      ุ
                                                                               ิ
                ื
                                                   ำ
                   ำ
               ย่นคาร้องให้คณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท ่ ี  ทะเบียนอาคารชุดโดยระบุทรัพย์ส่วนกลาง คือ ท่ดินตาม
                                              ี
                                                                                                      ี
                                                          ิ
                                                   ็
                                       ั
                                    ั
                                       ้
                    ่
                            ิ
                           ิ
                                  ้
               ระหวางศาลวนจฉัยได ดงนนหากจะยกเปนข้อปฏเสธ        โฉนดท่ดินเลขท่ ๔๑๓ เป็นทรัพย์ส่วนกลางเพียงแปลงเดียว
                                                                     ี
                                                                           ี
               การใช้มาตรา ๑๔ ว่าผู้ร้องโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังข้อ  เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แม้ศาลปกครองกลาง
               เท็จจริงของศาลแต่ละระบบเป็นเหตุยกคำาร้อง เป็นกรณี  จะพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า การท่เจ้าพนักงาน
                                                                                                  ี
               ที่ต้องศึกษากันต่อไปว่าเป็นไปตามมาตรา ๑๔ นี้หรือไม่  ท่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาธนบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีท่ ๒
                                                                                                          ี
                                                                ี
                                                                                       ี
                                                                            ี
                         ำ
                        ี
                      ท่สาคัญ การพจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.    ไม่จดทะเบียนท่ดินโฉนดเลขท่ ๔๑๔ เป็นทรัพย์ส่วนกลาง
                                  ิ
                                                                                           ิ
                                                                                                        ำ
                                                                                            ิ
                                                                                   ็
                                                                                              ั
               แล้วมีมติชี้มูลเป็นเพียง “การชี้มูล” และการวินิจฉัยของ   ชอบด้วยกฎหมายแล้วกเป็นการวนจฉยการกระทาของ
                                                                           ี
               ศาลปกครองท่วากระบวนการในข้นตอนตามพระราชบัญญต  ิ  เจ้าพนักงานท่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาธนบุรี ผู้ถูก
                          ี
                                                            ั
                                         ั
                           ่
               ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป้องกันและปราบปราม  ฟ้องคดีที่ ๒ ตามพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒
                                                                                                    ี
               การทุจริตน้นชอบหรือไม่ น่าจะมีผลเพียงการดาเนินการ  มิได้ขัดหรือแย้งกับคำาพิพากษาศาลอุทธรณ์ท่วินิจฉัยว่า
                         ั
                                                     ำ
               ตามข้นตอนน้นเป็นการชอบด้วยกฎหมาย เพราะผล ผู้ร้องซ่งเป็นจำาเลยในคดีดังกล่าวผูกพันต้องปฏิบัติตาม
                                                                     ึ
                    ั
                           ั
               การช้มูลน้นต้องเข้าส่กระบวนการของศาลในทางอาญา ประกาศโฆษณาโครงการของตนท่ระบุให้โฉนดท่ดิน
                                                                                                          ี
                                                                                             ี
                    ี
                                 ู
                        ั
                                                                    ี
               เพอตรวจสอบในเนอหาตามทชมลวามการกระทาตามท  เลขท่ ๔๑๔ เป็นทรัพย์ส่วนกลาง อันเป็นนิติสัมพันธ์
                                        ่
                                               ี
                                            ่
                                                       ำ
                 ื
                                        ี
                 ่
                                         ้
                                         ี
                               ้
                                          ู
                                                             ี
                                                             ่
                               ื
               ชี้มูลนั้นหรือไม่ ซึ่งเป็นการวินิจฉัยถึง “ข้อเท็จจริง” ของ ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจกับผู้บริโภค ตามพระราชบัญญัต ิ
               การกระทาท่กล่าวหาว่าเป็นความผิดทางอาญาซ่งเป็น  วิธพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ ทั้งเจ้าพนักงานท่ดน
                                                                                                          ี
                                                                 ี
                                                                                                           ิ
                                                        ึ
                        ำ
                          ี
                                                                                            ี
                                                                                             ิ
               อานาจของศาลยุติธรรมโดยแท้ และการกระทาน้เป็น  กรงเทพมหานครและเจ้าพนกงานทดนกรุงเทพมหานคร
                                                                                      ั
                                                                 ุ
                                                                                            ่
                ำ
                                                         ี
                                                       ำ
                                                                                ี
               การกระทาเดียวกับท่นาไปใช้เป็นฐานในการลงโทษ  สาขาธนบุรี ไม่ได้ช้แจงว่ามีเหตุขัดข้องในการปฏิบัต  ิ
                        ำ
                                   ำ
                                  ี
                        ึ
                                                 ื
                                           ี
               ทางวินัยซ่งเป็น  “ข้อเท็จจริงท่เป็นเร่องเดียวกัน”  ตามคำาพิพากษาของศาลอุทธรณ์แต่อย่างใด หรือหากม  ี
                                                                          ี
               นอกจากนนยงมีขอสงเกตถึง “เจตนาในทางปกครอง”  ข้อขัดข้องเก่ยวกับการบังคับคดีตามคำาพิพากษาของ
                                 ั
                              ้
                        ั
                        ้
                          ั
                                               ึ
               กับ “เจตนาทางอาญา” ท่เป็นส่วนหน่งของข้อเท็จจริง  ศาลอุทธรณ์ พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค
                                     ี
                                                                                           บทความที่น่าสนใจ   79
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90