Page 162 - สนง.ศาลภาค 2 กฎหมาย ระเบียบ และบทความที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เล่ม 2
P. 162

12


                  สัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรกับนายจ้าง และรายงานในรอบปีนี้พบว่ารูปแบบการบังคับใช้แรงงานนี้

                  ยังคงดําเนินต่อไป และจากการติดตามตรวจสอบของนานาชาติทําให้นายหน้าค้ามนุษย์หันไปใช้วิธีการ
                  ใหม่ ๆ ที่ทําให้การตรวจจับอาชญากรรมของพวกเขาเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น โดยชายจากไทย พม่า และ

                  กัมพูชา ถูกบังคับให้ทํางานในเรือประมงสัญชาติไทยในน่านน้ําไทยและน่านน้ําสากล และได้รับ

                  ความช่วยเหลือจากประเทศต่าง ๆ รวมทั้ง มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และติมอร์ จํานวนของเหยื่อ

                  ชาวกัมพูชาที่ได้รับความช่วยเหลือจากเรือประมงไทยหลายประเทศทั่วโลกในปี พ.ศ. 2556 เพิ่มขึ้นเป็น

                  เท่าตัว มีแรงงานชาวกัมพูชา และชาวพม่าจํานวนมากขึ้นที่ไม่ต้องการทํางานในเรือประมงไทย เนื่องจาก
                  อันตราย และสภาพการทํางานที่ขูดรีด ซึ่งทําให้พวกเขาเสี่ยงที่จะถูกค้ามนุษย์ ในรายงานประจําปี

                  เรื่อง สถานการณ์การค้ามนุษย์ยังระบุด้วยว่ามีข้าราชการไทยและเจ้าหน้าที่ในกองทัพที่ได้รับผลประโยชน์

                  จากการลักลอบขนย้ายผู้แสวงหาที่ลี้ภัยชาวโรฮิงยาซึ่งมาจากพม่าและบังกลาเทศ ซึ่งเดินทางผ่าน
                  ประเทศไทยเพื่อไปยังประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยชาวโรฮิงยาเหล่านี้ยังถูกขายเป็นแรงงาน

                  บังคับเกณฑ์ในเรือประมงด้วย อีกทั้ง รายงานฉบับนี้ยังกล่าวหากองทัพเรือของไทยและเจ้าหน้าที่ว่า

                  เปลี่ยนเส้นทางเรือ โดยใช้เรือไทยขนชาวโรฮิงยาซึ่งมีจุดหมายไปยังมาเลเซีย และอํานวยให้มีการขนถ่าย

                  ผู้เข้าเมืองบางส่วนไปยังคนลักพาและนายหน้าที่จะขายชาวโรฮิงยาไปเป็นแรงงานบังคับทํางาน

                  ในเรือประมง และมีรายงานในสื่อมวลชนระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ตํารวจไทยเคลื่อนย้ายผู้ชายชาวโรฮิงยาอย่าง
                  เป็นระบบจากศูนย์กักกันในไทย และขายพวกเขาให้กับคนลักพาและนายหน้า ซึ่งคนลักพาและนายหน้า

                  เหล่านี้จะส่งชาวโรฮิงยาไปในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ซึ่งพวกเขาจะถูกบังคับให้ทํางานในครัวหรือเป็นยาม

                  ในค่าย หรือถูกขายให้ไปเป็นแรงงานบังคับในภาคการเกษตรหรือบริษัทขนส่งทางเรือ

                         จากสถานการณ์ Tier 3 ที่เกิดขึ้นต่อประเทศไทยนั้น ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทะเล

                  โดยเฉพาะอุตสาหกรรมกุ้งและอาหารทะเลแช่แข็งมากที่สุด โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคาร

                  ไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้ระบุว่าภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะการส่งออก

                  สินค้าประมง เช่น กุ้ง และทูน่า การถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Tier 3 เป็นการเปิดทางไปสู่การใช้มาตรการ
                  คว่ําบาตรทางการค้าจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยหากประเทศไทยถูกคว่ําบาตรจริงก็จะส่งผลกระทบ

                  ต่ออุตสาหกรรมประมง อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง และอุตสาหกรรมกุ้งอย่างมาก เนื่องจากสหรัฐอเมริกา

                  เป็นตลาดส่งออกหลักของสินค้ากุ้ง และทูน่าจากไทย (share 40% และ 20% ตามลําดับ) รวมทั้ง
                  ยังอาจมีผลในเชิงจิตวิทยาที่ประเทศคู่แข่งทางการค้าจะนําไปขยายผลเพื่อโจมตีอุตสาหกรรมการค้าของไทย

                  ว่ามีการค้ามนุษย์ ใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับต่อไป


                         ขณะเดียวกัน ยังเป็นสิ่งที่ทําลายภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก และอาจมีผลกระทบต่อแนวโน้ม

                  การลงทุน และการระงับความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แม้ว่าปัจจุบันสหรัฐอเมริกาจะยังไม่มีมาตรการ
                  คว่ําบาตรทางการค้าต่อกลุ่มประเทศที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับต่ําสุดก็ตาม แต่นัยสําคัญของข่าวสารที่ได้

                  ถูกกระจายออกไปแล้ว ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก และอาจทําให้บริษัทข้ามชาติ
   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167