Page 159 - สนง.ศาลภาค 2 กฎหมาย ระเบียบ และบทความที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เล่ม 2
P. 159
9
ไปทํางาน ต้องทํางานใช้หนี้ในสภาพที่ไม่เต็มใจในการทํางาน โดยไม่สามารถขัดขืนหรือหนีเพื่อให้พ้น
สภาพนั้นได้ เนื่องจากเรืออยู่กลางทะเลตลอด
3) ค่าตอบแทนในการทํางาน
สภาพการจ้างงานประมงทะเลซึ่งเป็นงานที่หนักและเสี่ยงอันตราย มีอัตราค่าตอบแทน
ที่ต่ํามาก โดยลักษณะการจ่ายค่าตอบแทนแรงงานของประมงทะเลมีอยู่ 3 ประเภท คือ 1) แบบเป็น
เงินเดือน 2) แบบแบ่งเปอร์เซ็นต์ในการขายปลาแต่ละรอบ 3) แบบเป็นเงินเดือนและแบ่งเปอร์เซ็นต์
โดยปัจจุบันอัตราค่าตอบแทนแบบรายเดือนในพื้นที่ท่าเรือประมง เช่น สงขลา สมุทรสาคร สมุทรปราการ
และตรัง อยู่ที่อัตราประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งผู้ประกอบการมักอ้างว่าลักษณะการทํางาน
บนเรือประมงเป็นงานที่กินอยู่พร้อม ลูกเรือไม่ต้องซื้ออาหาร และเช่าที่พักอาศัย ดังนั้น อัตรา
ค่าจ้างแรงงานจึงอยู่ในอัตราที่ต่ํา ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าวทําให้แรงงานถูกเอารัดเอาเปรียบ เพราะอาหาร
และสถานที่พักผ่อนมักไม่ถูกสุขอนามัย ตลอดจนเจ้าของเรือประมงจะให้ลูกเรือสามารถสั่งอาหาร
หรือของใช้ที่ต้องการได้ โดยจะฝากสินค้าที่ลูกเรือสั่งซื้อมากับเรือขนถ่ายปลากลางทะเล ซึ่งอัตรา
ค่าสินค้าดังกล่าวมีราคาแพงเกินจริง เพราะบวกค่าขนส่งเป็นจํานวนมาก ดังนั้น เงินเดือน ๆ ละ 3,000 บาท
ของลูกเรือประมงหลายคนจึงเหลือเดือนละไม่ถึง 1,000 บาท ซึ่งตัวอย่างของแรงงานประมงหลายคน
ที่ทํางานบนเรือมาเป็นปี เมื่อขึ้นฝั่งตัดบัญชีค่าจ้างแรงงานจึงเหลือเงินคนละไม่กี่พันบาทเท่านั้น ส่วนกรณี
แบ่งค่าจ้างจากเปอร์เซ็นต์ในการขายปลานั้นก็มีสภาพไม่ต่างกัน เพราะลูกเรือไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า
ในความเป็นจริงขายปลาได้เงินจํานวนเท่าใดและหักลบกันกี่เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น อัตราค่าจ้างแรงงาน
ทั้งสองแบบจึงไม่เป็นธรรมแก่ลูกจ้าง
4) สัญญาการจ้างงาน
ระบบการจ้างแรงงานของอุตสาหกรรมประมงทะเล ส่วนใหญ่เป็นการมอบหมายการดูแล
และจัดหาลูกเรือประมงให้กับผู้ควบคุมเรือ (ไต้ก๋ง) ดังนั้น ระบบการจัดการเรื่องเอกสารจึงไม่มีประสิทธิภาพ
เท่าที่ควร แรงงานประมงจํานวนมากออกเรือโดยไม่เคยมีการเซ็นสัญญาการจ้างงาน ลูกเรือไม่ทราบ
ค่าจ้างแรงงานที่ตนเองจะได้รับและระยะเวลาที่ต้องออกเรือ ยิ่งเป็นแรงงานเด็กหรือแรงงานที่ถูกนําพา
มาโดยขบวนการค้ามนุษย์จะไม่ทราบแม้กระทั่งว่าตนเองจะไปออกเรือที่ไหนและจะได้กลับเข้าฝั่งเมื่อใด
5) ชั่วโมงในการทํางาน
งานประมงเป็นงานในลักษณะพิเศษ มีช่วงเวลาในการทํางานไม่เหมือนงานปกติทั่วไป
กล่าวคือ มีการทํางานเป็นช่วงเวลาไม่ต่อเนื่องกัน ลูกเรือประมงจะมีหน้าที่ปล่อยอวน เมื่อลากปลาขึ้นมาได้
ก็จะทําการคัดแยกปลาและซ่อมอวนแล้วจึงปล่อยอวนอีกครั้ง เรียกว่า 1 ลอย ใช้เวลาประมาณลอยละ
2-4 ชั่วโมง จากนั้นจะนอนพักผ่อน 2-4 ชั่วโมง ก็จะทําการลากอวนขึ้นเรือและคัดแยกปลารอบใหม่
วนเวียนกันอยู่แบบนี้ ดังนั้น การพักผ่อนจึงไม่ต่อเนื่อง ตลอดจนไม่มีเวลาหยุดงานที่ชัดเจน จึงทําให้
แรงงานประมงอาจจะทํางานเกินกว่าวันละ 8 ชั่วโมง โดยพักผ่อนไม่เพียง ซึ่งเป็นเหตุแห่งการเกิด
อันตรายในการทํางานและอาจเจ็บป่วยได้ง่าย