Page 1142 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1142

๑๑๓๐



                 พนักงานสอบสวนต้องยื่นค าร้องฝากขังต่อศาล โดยในระหว่างนั้นผู้ต้องหาจะได้รับการตรวจรักษาอาการ

                 ทางจิต โดยแพทย์ประจ าสถานพยาบาลภายในเรือนจ า หากอาการทางจิตของผู้ต้องหาจ าเป็นต้องตรวจ
                 รักษาโดยแพทย์ประจ าโรงพยาบาลจิตเวช ก็สามารถส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนั้น

                 หากผู้ต้องหาเป็นผู้วิกลจริต แต่สามารถต่อสู้คดีได้ได้รับการปล่อยชั่วคราว และผู้ต้องหาไม่ได้เข้ารับการ

                 รักษาที่โรงพยาบาลโรคจิต กรณีเช่นนี้ยังไม่มีกฎหมายใดบังคับให้ผู้ต้องหาเข้ารับการรักษาอาการทางจิต
                 ท าให้ประชาชนเกิดความหวั่นวิตกว่า ผู้ต้องหาซึ่งมีอาการทางจิตนั้นอาจก่อเหตุร้ายต่อตนเองและผู้อื่นได้

                                      ค. ปัญหาการตรวจสอบการใช้อานาจของพนักงานสอบสวน ตามประมวล

                 กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔ ที่ให้อ านาจพนักงานสอบสวนในการใช้ดุลพินิจตัดสินถึงสภาพ

                 จิตของผู้ต้องหา พร้อมกับก าหนดมาตรการในการปฏิบัติ แม้กฎหมายจะก าหนดให้พนักงานสอบสวนต้อง

                 สั่งพนักงานแพทย์ตรวจผู้ต้องหานั้นเสียก่อน เมื่อทราบผลการตรวจของแพทย์จึงวินิจฉัยว่าผู้ต้องหา
                 วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้หรือไม่ แต่รายงานและถ้อยค าของแพทย์ไม่ผูกมัดในการวินิจฉัยของ

                 พนักงานสอบสวน
                                      ๓.๑.๒ ปัญหาการใช้มาตรการทางกฎหมายในชั้นพนักงานอัยการ

                                                                              ั
                                      เมื่อพนักงานสอบสวนส่งส านวนคดีให้พนักงานอยการแล้ว หากมีเหตุควรเชื่อว่า
                 ผู้ต้องหาเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ พนักงานอยการไม่อาจใช้วิธีการ ตามประมวลกฎหมาย
                                                                   ั
                 วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔ ได้เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อ านาจไว้

                                      ๓.๑.๓ ปัญหาการใช้มาตรการทางกฎหมายในชั้นศาล แบ่งเป็น ๓ กรณี คือ

                                      ก. ปัญหาการแยกแยะว่าจ าเลยที่เป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ใน
                 ชั้นศาล

                                      การไม่มีมาตรฐานกลางในการก าหนดกฎเกณฑการวินิจฉัยว่า กรณีใดจะถือได้ว่า
                                                                             ์
                 มีเหตุควรเชื่อว่าจ าเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ และศาลไม่มีความรู้ด้านการแพทย์

                 เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวน

                                      ข. ปัญหาการควบคุมตัว และการปล่อยชั่วคราวของจ าเลยที่มีสภาพจิตไม่ปกติ
                 ในชั้นศาล กรณีจ าเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ กรณีจ าเลยถูกขังก็สามารถส่งตัวจ าเลยไป

                 ตรวจรักษาในสถานพยาบาลภายในเรือนจ า หรือส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลโรคจิตได้  แต่กรณีจ าเลย
                 ได้รับการปล่อยชั่วคราวไม่มีบทบัญญัติใดบังคับให้จ าเลยเข้ารับการรักษาอาการทางจิต ท าให้สังคมต้อง


                 เสี่ยงกับการกระท าความผิดของบุคคลดังกล่าว
                                      ค. ปัญหาการไม่ได้ยกเหตุวิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ขึ้นกล่าวอ้างใน

                 ศาลชั้นต้น ย่อมไม่อาจยกขึ้นต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาได้
                               ๓.๒ ปัญหาการใช้มาตรการทางกฎหมายแก่บุคคลวิกลจริตในการรับโทษทางอาญาตาม

                     ิ
                 ค าพพากษา
                                      ๓.๒.๑ ปัญหาการบังคับโทษกักขังแก่บุคคลวิกลจริต ประมวลกฎหมายวิธี

                                                                                         ิ
                  ิ
                 พจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๖ บัญญัติถึงการทุเลาการลงโทษเฉพาะกรณีที่ศาลพพากษาให้ลงโทษ
   1137   1138   1139   1140   1141   1142   1143   1144   1145   1146   1147