Page 131 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 131

๑๑๘



                       ค าพพากษาศาลฎีกาเรื่องนี้ข้อเท็จจริงเกิดขึ้นในปี ๒๕๔๕ ก่อนมีการแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมาย
                          ิ
                                                                                      ิ่
                   ิ
                                                                                                     ิ่
                                                           ิ่
               วิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๘/๑ (แก้ไขเพมเติมโดยมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติม
               ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๔๗) ถ้าเป็นปัจจุบัน กรณีตามฎีกานี้ก็ต้องถือ
                                  ิ
               ว่า ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีเหตุผลอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยศาลน าข้อเท็จจริงจากทั้ง
                                                                                                    ั
               พยานหลักฐานในส านวนฝากขังและข้อเท็จจริงจากข้อคัดค้านของพนักงานสอบสวนมาสนับสนุนเหตุอนควร
               เชื่อดังกล่าว ถือเป็นค าสั่งที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายที่มุ่งประสงค์ที่จะคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ

               ของประชาชน


               บทสรุป

                       ที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวนเป็นเรื่องกระทบกระเทือนถึงสิทธิ
                                                                                                     ิ
               และเสรีภาพของบุคคลเป็นอย่างมาก นอกจากบุคคลนั้นต้องสูญเสียเสรีภาพในขณะที่ยังไม่มีการพสูจน์
               ความผิดแล้ว ยังท าให้เสียโอกาสที่จะออกไปแสวงหาพยานหลักฐานเพอใช้ในการต่อสู้คดีด้วย และยิ่งศาลฎีกา
                                                                         ื่
               วินิจฉัยวางหลักว่า การอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวน ไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายมีความประสงค์จะ

                             ุ
                                                                                   ิ
               ให้ผู้ต้องหายื่นอทธรณ์คัดค้านค าสั่งอนุญาตให้ฝากขังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา
                                         ุ
                                                                                   ิ
               ๑๙๓ ผู้ต้องหาจึงไม่มีสิทธิยื่นอทธรณ์ค าสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ฝากขังได้ (ค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๔๒๖๕/
               ๒๕๖๑) ก็เท่ากับค าสั่งศาลชั้นต้นกรณีดังกล่าวจะไม่ได้รับการตรวจสอบจากศาลสูงเลย ดังนั้น ก่อนออกหมาย
                                                                       ิ
               ขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวน ด้วยความเคารพ ผู้เขียนเห็นว่า ผู้พพากษาจักต้องพจารณาด้วยความละเอยด
                                                                                                       ี
                                                                                    ิ
                                                                   ี
               รอบคอบและให้ความส าคัญกับการรับฟงพยานหลักฐานว่ามีเพยงพอที่จะออกหมายขังหรือไม่ เพราะการออก
                                                ั
               หมายขังจะส่งผลไปถึงโอกาสที่ผู้ต้องหาจะได้รับการปล่อยชั่วคราวด้วย โดยเฉพาะถ้าศาลออกหมายขังในข้อหา
                                                                                  ื่
                   ั
               ที่มีอตราโทษสูงกว่าการกระท าที่แท้จริง และศาลไม่สามารถหามาตรการใด ๆ เพอปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องมี
               หลักประกันได้ ผู้ต้องหาก็ต้องดิ้นรนหาหลักประกันมาเพื่อค้ าประกันความเชื่อของศาลว่าเขาจะไม่หลบหนีหรือ
               จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

                       จริงอยู่ แม้ในเชิงอดมคติ เสรีภาพไม่ควรมีราคา และไม่สามารถตีราคาออกมาเป็นตัวเงินได้
                                       ุ
                                                                          ่
               แต่เสรีภาพที่สูญเสียไปกับข้อหาที่ไม่ควรถูกขังหรือถูกขังในข้อหาที่ไมมพยานหลักฐานตามสมควร หนักยิ่ง
                                                                            ี
                                                                              ่
               กวาเสรีภาพที่ถูกตีราคาออกมาเป็นตัวเงิน ถ้าสุดท้ายแล้วบุคคลนั นไมสามารถหาหลักประกันมาเพื่อ
                  ่
               แลกเปลี่ยนเสรีภาพได้ ราคาของเสรีภาพจึงไม่เพยงแต่มีความหมายโดยนัยสะท้อนไปถึงความเหลื่อมล้ าใน
                                                         ี
               การขอปล่อยชั่วคราว ยังหมายถึงการที่ศาลออกหมายขังในข้อหาที่มีอตราโทษสูงโดยไม่พจารณาว่ามีพยาน
                                                                                           ิ
                                                                          ั
               หลักฐานพอสมควรหรือไม่ จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาไม่มีความสามารถพอที่จะขอปล่อยชั่วคราวได้
                       ผู้เขียนจึงมีความเห็นเป็นข้อสรุปของปัญหาทั้งหมดว่า การที่ผู้พิพากษาได้ท าหน้าที่อย่างครบถ้วนตาม

                                                                                           ี
                                                                                ิ
               เจตนารมณ์ของกฎหมายสมดังที่สังคมไว้วางใจมอบหมายภารกิจส าคัญให้ผู้พพากษา ไม่เพยงแต่ช่วยปกป้อง
               คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ยังท าให้เกิดความรู้สึกที่ว่า ศาลเป็นที่พึ่งแรกของประชาชนได้ ในทาง
               กลับกัน หากศาลไม่สามารถเป็นที่พึ่งแรกได้ ก็คงจะไม่มีใครฝากความหวังให้เป็นที่พึ่งสุดท้าย
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136