Page 128 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 128
๑๑๕
ิ
ี
ยังเหลือพยานอก ๓ ปาก รอผลการตรวจพสูจน์ยาเสพติดของกลาง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม แม้พนักงานสอบสวน
จะมีเหตุในการขอหมายขัง แต่การที่ศาลจะออกหมายขังให้หรือไม่ ศาลก็ต้องอาศัยหลักเกณฑ์ตามมาตรา ๗๑
ประกอบมาตรา ๖๖ เช่นกัน ดังนั้น แม้จะมีหลักฐานตามสมควรที่จะออกหมายขังได้ แต่ผู้ต้องหาไม่มี
พฤติการณ์หลบหนี ศาลจะไม่ออกหมายขังก็ได้ หรือมีเหตุที่จะขอหมายขังตามมาตรา ๗๑ ประกอบมาตรา
๑๗
๖๖ แต่ไม่มีเหตุจ าเป็นในการสอบสวนตามมาตรา ๘๗ ศาลจะไม่ออกหมายขังก็ได้ ประการที่ ๔ “พนักงาน
ี
สอบสวนมอ านาจสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อขอออกหมายขงโดยทันที แต่ถ้าขณะนั นเป็นเวลาที่ศาลปิดหรือ
ั
ใกล้จะปิดท าการ ให้พนักงานสอบสวนสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลในโอกาสแรกที่ศาลเปิดท าการ กรณีเช่นวานี
่
ให้น ามาตรา ๘๗ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาออกหมายขังโดยอนุโลม” ความในส่วนนี้เป็นข้อที่แสดงให้เห็น
่
ว่า บทบัญญัติมาตรา ๑๓๔ วรรคท้าย เป็นเรื่องที่ไม่มีการจับมากอนนั่นเอง จึงต้องน าบทบัญญัติมาตรา ๘๗ มา
ใช้โดยอนุโลม เช่นนี้ศาลก็ต้องไต่สวนว่าผู้ต้องหามามอบตัวเมื่อใด พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาอะไร
๑๘
มีหลักฐานตามสมควรหรือไม่ และมีเหตุจ าเป็นอย่างไรในการขอหมายขัง ดังนี้เป็นต้น และประการที่ ๕
“หากผู้ต้องหาไมปฏิบัติตามค าสั่งของพนักงานสอบสวนดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนมอานาจจับ
่
ี
ผู้ต้องหานั นได้ โดยถือวาเป็นกรณีจ าเป็นเร่งด่วนที่จะจับผู้ต้องหาได้โดยไมมหมายจับ และมอานาจปล่อย
่
ี
่
ี
้
ชั่วคราวหรือควบคุมตัวผู้ต้องหานั นไว” ความในส่วนนี้ก็ยิ่งตอกย้ าให้เห็นชัดเจนว่าการขอให้ศาลออกหมาย
ขังตามมาตรา ๑๓๔ วรรคท้าย จะต้องเป็นเรื่องที่ยังไม่มีการออกหมายจับมาก่อน กฎหมายจึงให้อานาจจับแก ่
พนักงานสอบสวนโดยไม่ต้องมีหมายจับ แต่ก็ต้องมีเงื่อนไขว่า พนักงานสอบสวนต้องสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลพร้อม
พนักงานสอบสวนก่อน หากผู้ต้องหาไม่ไป พนักงานสอบสวนจึงจะมีอานาจจับผู้ต้องหาได้ ถือเป็นกรณีจ าเป็น
เร่งด่วนโดยไม่ต้องมีหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๗๘ (๓) เมื่อจับแล้วก็จะ
ิ
เข้าสู่ขั้นตอนปกติ คือ มีอ านาจควบคุมตัวได้ ๔๘ ชั่วโมง และก่อนครบ ๔๘ ชั่วโมง พนักงานสอบสวนจะปล่อย
ชั่วคราวเองก็ได้ตามมาตรา ๑๐๖ (๑) ถ้าไม่ปล่อยชั่วคราว ก่อนครบ ๔๘ ชั่วโมง พนักงานสอบสวนต้องคุมตัว
ผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลตามมาตรา ๘๗ วรรคสาม ถ้าศาลอนุญาตให้ฝากขัง ก็เป็นอานาจศาลที่จะให้ปล่อย
ชั่วคราวตามมาตรา ๑๐๖ (๒)
๑๙
อย่างไรก็ตาม แม้ครบเงื่อนไขต่าง ๆ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓๔ วรรคห้า ก็ไม่ได้หมายความว่า
่
ี
ศาลจะออกหมายขังได้ทันที ศาลยังต้องพิจารณาต่อไปวาพยานหลักฐานของผู้ร้องมตามสมควรให้เชื่อวา
่
่
ผู้ต้องหาน่าจะกระท าผิดหรือไม เพราะเงื่อนไขอนเป็นเหตุให้ศาลออกหมายขังตามมาตรา ๑๓๔ วรรคท้าย
ั
กับพยานหลักฐานตามสมควรในการออกหมายขังเป็นคนละเรื่องกัน เช่น ปรากฏในภาพถ่ายว่าผู้ต้องหาอยู่ในที่
เกิดเหตุด้วยในขณะที่ผู้เสียหายถูกคนร้ายรุมท าร้าย ต่อมาผู้ต้องหาเข้ามอบตัวให้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าไม่ได้มี
ี
ส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงเพมเติมว่ามีส่วนร่วมกับเหตุการณ์อย่างไร พยานหลักฐานเพยงเท่านี้ถือว่ายัง
ิ่
ไม่เพยงพอที่ศาลจะออกหมายขังได้ ไม่ว่าในข้อหาใด หรือพยานหลักฐานมีเพยงว่าผู้ต้องหาใช้ปืนยิงผู้ตาย
ี
ี
๑๗ สหรัฐ กิติ ศุภการ, เพิ่งอ้าง, น. ๓๖๗.
๑๘ สหรัฐ กิติ ศุภการ, เพิ่งอ้าง, น. ๓๖๗.
๑๙ สหรัฐ กิติ ศุภการ, เพิ่งอ้าง, น. ๓๖๗.