Page 291 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 291
๒๗๘
ื่
อนที่มีโทษจ าคุกรวมอยู่ด้วยและเป็นคดีความผิดเล็กน้อย (less serious offense) เช่น การลักทรัพย์
ี
ในร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้า ในราคาเพยงเล็กน้อยเช่น ราคาไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือ
ื่
กระท าความผิดฐานท าร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ หรือความผิดอนใดตาม
ิ
บัญชีท้ายของพระราชบัญญัติดังกล่าว พนักงานสอบสวนจะไม่มีอานาจใช้ดุลพนิจในการเลือกปฏิบัติต่อ
ื่
เด็กและเยาวชนที่กระท าความผิดโดยวิธีอน นอกจากต้องแจ้งข้อกล่าวหาด าเนินคดีและส่งตัวเด็กและ
เยาวชนไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กภายใน ๒๔ ชั่วโมงตามขั้นตอนของกฎหมายในปัจจุบันและต้อง
้
ส่งส านวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้กระท าความผิดไปยังพนักงานอยการเพอฟองคดีต่อศาลเยาวชนและ
ื่
ั
ครอบครัวต่อไป สุดท้ายคดีดังกล่าวก็จะถูกศาลเยาวชนและครอบครัว มีค าสั่งใช้มาตรการพิเศษแทนการ
ด าเนินคดีอาญาดังสถิติที่กล่าวมาข้างต้น กระบวนการยุติธรรมที่เคร่งคัดดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของนานา
อารยประเทศแล้วว่าส่งผลเสียต่อเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมาก เช่น การสร้างตราบาปให้มีมลทินว่าเป็น
ผู้กระทาความผิด มีประวัติว่าถูกศาลตัดสินเป็นผู้กระท าความผิด และอาจส่งผลให้เด็กและเยาวชนที่เข้า
ื่
สู่กระบวนการอย่างเคร่งครัดนี้เข้าไปเรียนรู้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากผู้กระท าความผิดอนและอาจ
ู
กลายเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมที่ยากต่อการแก้ไขฟนฟให้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม นอกจากนี้การมี
ื้
กระบวนการยุติธรรมส าหรับเด็กและเยาวชนที่ไม่มีมาตรการทางเลือกอื่นนอกกระบวนการทางศาลย่อม
ส่งผลให้ในแต่ละปี มีคดีเข้าสู่กระบวนพจารณาพพากษาของศาลเป็นจ านวนมากทั้งที่บางคดี
ิ
ิ
เป็นความผิดเล็กน้อย ท าให้ศาลต้องสูญเสียงบประมาณและบุคคลากรโดยเฉพาะผู้พพากษาในการ
ิ
ิ
พจารณาพพากษาคดีกับคดีความผิดเล็กน้อยจนไม่มีเวลาเพยงพอที่จะให้ความส าคัญกับคดีที่มีความ
ิ
ี
รุนแรงหรือมีความซับซ้อนย่อมส่งผลให้การพิจารณาและพพากษามีประสิทธิภาพน้อยลง
ิ
ดังนั้น หากกระบวนการยุติธรรมส าหรับเด็กและเยาวชนในประเทศไทย มีการแก้ไข
ปรับปรุงให้ขั้นตอนการด าเนินคดีของเจ้าพนักงานต ารวจมีกระบวนการกลั่นกรองคดี (police
screening) เพอผลักดันหรือเบี่ยงเบน(diversion)เด็กและเยาวชนออกจากกระบวนการยุติธรรมตาม
ื่
ขั้นตอนปกติโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางศาล (alternative measures without proceeding
through the formal court) เหมือนกับกระบวนการยุติธรรมส าหรับในประเทศแคนนาดาและ
พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพพาท พ.ศ. ๒๕๖๒ ย่อมท าให้กระบวนการยุติธรรมส าหรับเด็กและ
ิ
เยาวชนของประเทศไทย มีความสอดคล้องกับกฎหมายของนานาอารยประเทศและยังสอดคล้องกับ
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ประเทศไทยเข้าไปภาคีสมาชิก ส่งผลให้รัฐมีอานาจเข้าไปแทรกแซง
พฤติกรรมของเด็กและเยาวชนได้ทันท่วงทีและคัดสรรมาตรการที่หลากหลายตามความเหมาะสม
ื่
(effective and timely response) โดยไม่ผ่านกระบวนการทางศาล มาปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนเพอ
ื่
ี
แก้ไขฟนฟให้เด็กและเยาวชนกลับตัวเป็นพลเมืองดีเพอให้เด็กได้รับประโยชน์สูงสุด อกทั้งยังเปิดโอกาส
ื้
ู
ให้ผู้เสียหายและชุมชุมที่ได้รับผลกระทบจากความผิดที่เกิดขึ้นเข้ามามีส่วนเกี่ยวกับและร่วมกันตัดสินใจ
ในการปฏิบัติต่อเด็กและยาวชน ย่อมเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายได้รับการชดใช้ค่าเสียหายและ
ั
เสริมสร้างความสัมพนธ์ระหว่างผู้กระท าความผิดและผู้เสียหายดีขึ้นและก่อให้เกิดสังคมที่สงบสุข