Page 287 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 287
๒๗๔
มีข้อสังเกตจากรายงานวิจัยสรุปได้ว่า ถึงแม้ว่าประเทศแคนนาดาจะประสบความส าคัญในการบังคับใช้
กฎหมาย Youth Criminal Justice Act ดังกล่าวข้างต้น แต่จากรายงานการวิจัยพบปัญหาส าคัญและ
ิ
ุ
เป็นอปสรรคในการใช้ดุลพนิจผลักดันเด็กที่กระท าความผิดออกจากกระบวนการคือ การขาดแคลน
โครงการต่าง ๆ ที่เหมาะสม (the lack of suitable programs) ที่จะรองรับต่อเด็กที่กระท าความผิด
เจ้าหน้าที่ต ารวจส่วนใหญ่ที่ถูกสัมภาษณ์เชื่อว่า การผลักดันเด็กออกจากกระบวนการอย่างไม่เป็น
ทางการและมาตรการทางเลือกอนในการปฏิบัติต่อเด็กอย่างไม่เป็นทางการ (informal diversion and
ื่
Alternative Measures) มีคุณค่าอย่างส าคัญในการแก้ไขปัญหาเด็กกระท าความผิด แต่เจ้าหน้าที่
ต ารวจส่วนใหญ่ไม่สามารถน ามาตรการเหล่านี้มาปฏิบัติต่อเด็กได้เลย (at all) และในทางปฏิบัติ
เจ้าหน้าที่ต ารวจไม่สามารถน ามาตรการเหล่านี้มาใช้ได้มากเท่ากับที่ต้องการเพราะไม่มีโครงการต่าง ๆ
ื่
มารองรับเด็กที่จะถูกผลักดัน สิ่งเหล่านี้ท าให้เจ้าหน้าที่ต ารวจรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอนในการ
ปฏิบัติต่อเด็กที่กระท าผิดที่เหมาะสม จึงจ าเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่อเด็กและพวกเขายังรู้สึกอกว่า
ี
มาตรการผลักดันเด็กออกจากกระบวนการหลังจากมีการแจ้งข้อกล่าวหา (post-charge diversion) ไม่
น่าสนใจและขัดต่อสามัญส านึกและท าให้พวกเขาต้องท าในสิ่งตรงกันข้ามคือแจ้งข้อกล่าวหาต่อเด็ก
เพอที่จะผลักดันออกจากกระบวนการ ส่งผลให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อเด็กมากขึ้น นอกจากนี้จากการ
ื่
วิจัยพบว่ากฎหมายฉบับปัจจุบันกระตุ้นให้มีการใช้มาตรการอย่างไม่เป็นทางการโดยเจ้าหน้าที่ต ารวจ
และมีข้อสันนิษฐานว่ามีความเหมาะสมส าหรับความผิดครั้งแรกที่เป็นความผิดไม่รุนแรง ดังนั้น การ
รณรงค์ให้การศึกษาและความรู้อย่างจริงจังกับมาตรการนี้จะเป็นสิ่งช่วยโน้มน้าวให้เจ้าพนักงานต ารวจ
เห็นว่า โดยภาพรวมแล้ว การใช้มาตรการอย่างไม่เป็นทางการเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายและมีความ
ี
เหมาะสมต่อการปฏิบัติต่อเด็กที่กระท าผิดกฎหมาย และมีเพยงในบางกรณีตามพฤติการณ์แห่งคดี การ
ส่งตัวเข้าสู่โครงการต่าง ๆ หรือการส่งตัวไปยังศาลจะเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายและมีความเหมาะสม
๘๐
ส่วนมาตรการทางเลือกอื่นในการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนโดยไม่ผ่านกระบวนการทางศาลของ
ประเทศไทย นั้น ในชั้นสอบสวน เจ้าพนักงานต ารวจคงมีอานาจแค่เปรียบเทียบปรับหรือยุติการ
ิ
สอบสวนในคดีที่มีอานาจเปรียบเทียบปรับได้ตามที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น ในส่วนของมาตรการพเศษ
ี
แทนการด าเนินคดีอาญาในชั้นก่อนฟอง ยังคงมีการน ามาใช้ในทางปฏิบัติเพยงเล็กน้อย ในปี พ.ศ.
้
๒๕๖๒ การน ามาตรการตามมาตรา ๘๖ มาใช้ ๑,๓๖๐ คดี ศาลเห็นชอบ ๑,๓๕๔ คดี ส่วนมาตรการ
้
ิ
พเศษแทนการด าเนินคดีอาญาหลังฟอง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ มีการน ามาตรการนี้มาใช้จ านวน ๑,๐๓๑
ิ
คดี จากจ านวนคดีทั้งหมด ๓๗,๑๔๘ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ มีการน ามาตรการพเศษมาใช้ ๑๐,๘๙๔ คดี จาก
๘๑
จ านวนคดีทั้งหมด ๑๖,๖๔๐ คดี และในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ น ามาตรการตามมาตรา ๙๐ และมาตรา
๘๒
๘๐ Peter J. Carrington and Jennifer L. Schulenberg, Police Discretion with Young Offenders,
p. ix-x
๘๑ รายงานสถิติคดีศาลยุติธรรมทั่วราชอาญาจักร ประจ าปี พ.ศ.๒๕๕๕, หน้า ๒๖๗
๘๒ รายงานสถิติคดีศาลยุติธรรมทั่วราชอาญาจักร ประจ าปี พ.ศ.๒๕๕๕, หน้า ๑๗๘