Page 288 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 288
๒๗๕
๑๓๒ มาใช้ ๙,๒๔๙ คดี ไม่ส าเร็จ ๗๕๘ คดี อยู่ระหว่างด าเนินการ ๙,๘๑๙ คดี จากจ านวนคดีทั้งหมด
ื่
๘๓
๑๔,๘๐๔ คดี จากสถิติดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามาตรการทางเลือกอนโดยไม่ผ่านกระบวนการทางศาล
ก่อนการแจ้งข้อกล่าวหา (pre-charge) กฎหมายของไทยให้อานาจเจ้าพนักงานต ารวจไว้เพยงเล็กน้อย
ี
ั
เฉพาะในความผิดที่เปรียบเทียบปรับในชั้นสอบสวนได้เท่านั้น อนแตกต่างจากกฎหมายของประเทศ
แคนนาดาที่ให้อานาจเจ้าพนักงานสอบสวนในการกลั่นกรองคดี (screening process) เพอเลือกใช้
ื่
มาตรการพเศษต่าง ๆ แทนการแจ้งข้อกล่าวหาด าเนินคดีอย่างเป็นทางการอนเป็นหลักการและวิธีทาง
ิ
ั
ปฏิบัติที่นานาอารยประเทศมีใช้กันอย่างแพร่หลายด้วยหลักการและเหตุผลดังกล่าวมาข้างต้น ท าให้
กฎหมายของไทยในส่วนนี้ยังไม่มีความสอดคล้องกับนานาอารยประเทศ และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีสมาชิก ท าให้อาจส่งผลเสียก่อนการแก้ไขปรับปรุงเด็กและเยาวชนให้กลับตัว
เป็นพลเมืองดีของสังคงเนื่องจากเจ้าหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไม่มีอานาจเลือกใช้มาตรการที่
เหมาะสมในการปฏิบัติต่อเด็กในช่วงเวลาที่รวดเร็ว(effective and timely responses) จากสถิติ
ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเด็กและเยาวชนจะได้รับการบ าบัดแก้ไขก็เมื่อล่วงเลยระยะเวลาเข้ามาสู่
กระบวนการพิจารณาของศาลแล้วซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่อาจสายเกินไปในการใช้มาตรการต่าง ๆ ในการ
บ าบัดรักษาเพราะเมื่อถึงเวลานั้นเด็กหรือเยาวชนอาจกลับกลายเป็นผู้ที่ไม่อาจแก้ไขฟื้นฟได้อกต่อไป จา
ี
ู
ิ
ิ
การสัมภาษณ์พบว่า ในพจารณาพพากษาคดีเด็กและเยาวชนกระท าความผิด จากการสืบเสาะ
๘๔
ประวัติพบว่าสาเหตุการกระท าความผิดเกิดจากหลายประการ เช่น ๑.สภาพครอบครัวไม่ปกติ บิดา
ุ
มารดาแยกทางกัน ไม่ได้ช่วยกันอปการะเลี้ยงดู ส่งผลให้จ าเลยพกอาศัยอยู่กับคนเลี้ยงที่อายุมาก ท าให้
ั
เกิดช่องว่างระหว่างวัย คนเลี้ยงตามเยาวชนไม่ทัน เยาวชนไม่ฟงคนเลี้ยง ๒.วิธีการควบคุมพฤติกรรม
ั
ผู้ปกครองไม่มีการวางกฎระเบียบ อย่างน้อยที่สุดต้องมีการห้ามการกระท าความผิด เช่น ไม่ได้
ก าหนดเวลากลับบ้าน หรือไม่ได้ให้ช่วยเหลืองานบ้าน หรือฝึกให้ท างานสะสมเงิน รู้จักประหยัด ส่งผลให้
เยาวชนเที่ยวเตร่นอกบ้าน โอกาสในการกระท าความผิดจึงมีสูง ใช้จ่ายโดยไม่มีการออม ท าให้ต้องหาเงิน
ด้วยวิธีลัดโดยการท าผิด ภาวะการเป็นผู้น าและผู้ตามที่ดีไม่ได้รับการฝึกฝน คล้อยตามคนอนให้ชักจูงไป
ื่
ในการกระท าความผิดได้ง่าย มีตัวอย่างในคดีข้อหาลักทรัพย์ จ าเลยเข้าไปลักเงินในตู้บริจาคของวัด
เจ้าอาวาสประสงค์ที่จะให้โอกาสจ าเลยกลับตัว แต่ชาวบ้านไม่ยอม เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง จึงมี
การแจ้งความ พนักงานสอบสวนจึงด าเนินคดี ไม่อาจใช้มาตรา ๘๖ ได้ เพราะผู้เสียหายไม่ยินยอม แต่
ู
เมื่อคดีมาถึงศาล เจ้าอาวาสกลับให้ความร่วมมือด้วยดี เพราะไม่ให้ชาวบ้านหรือลูกศิษย์พด และเชิญ
ออกนอกห้องพจารณา จึงได้ใช้ มาตรา ๑๓๒ วรรคหนึ่ง คืนตัวให้ผู้ปกครอง พาไปอยู่ที่วัด และให้เจ้า
ิ
อาวาสเป็นผู้ควบคุมความประพฤติ หากมีชาวบ้านหรือบุคคลใดขัดขวางให้รายงานศาลทันที จากบท
สัมภาษณ์ดังกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและหลักการ
๘๓ รายงานสถิติคดีศาลยุติธรรมทั่วราชอาญาจักร ประจ าปี พ.ศ.๒๕๖๒, หน้า ๑๙๕
๘๔ นายวุฒิ ศรีธีระวิศาล, ผู้พิพากษาศาลแขวงพระนครใต้, สัมภาษณ์.ศาลแขวงพระนครใต้, ๒๑ กรกฎาคม
๒๕๖๔.