Page 289 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 289
๒๗๖
ู
ื้
ของกระบวนการยุติธรรมส าหรับเด็กและเยาวชนที่มุ่งเน้นในการแก้ไขฟนฟผู้กระท าความผิดเป็นส าคัญ
ั
๓.ความสัมพนธ์ในครอบครัว ขาดความสัมพนธ์ระหว่างบิดา มารดา และบุตร กลายเป็น ปู่ ย่า ตา ยาย
ั
หลาน แทน ซึ่งสอดคล้องกับข้อแรก ที่จะท าให้ช่องว่างระหว่างวัยมีมากขึ้น เยาวชนจะสนใจแต่สิ่งที่
ื่
เข้าถึงได้ง่าย เช่น ติดเพอน หรือติดโทรศัพท์มากกว่า จะท าให้ใจร้อนง่าย ๔.อาการเจ็บป่วย ตัวอย่าง
คดีอาญาข้อหาลักทรัพย์เรื่องหนึ่ง จ าเลยอายุ ๑๖ ปีเศษ บุกรุกเข้าไปในร้านขายของช าในเวลาปิดแล้ว
เข้าไปลักเสื้อผ้า ๒ ชุด เมื่อตรวจดูรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเด็ก/เยาวชน พบว่า เคยท ามาแล้วหลาย
ครั้ง แต่ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่ติดใจ เมื่อพนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะข้อเท็จจริงแล้ว จ าเลยลักชุดเสื้อผ้า
มาหลายครั้ง แล้วน ามากองไว้ที่บ้าน โดยไม่ได้น าไปสวมใส่ บิดาจ าเลยต้องน าไปคืนทุกครั้ง ซึ่งในข้อนี้
เจ้าพนักงานต ารวจในท้องที่ย่อมทราบดี แต่ไม่ได้ช่วยหาทางแก้ไข จึงขอให้ส่งแพทย์ตรวจระดับ
สติปัญญา ผลตรวจแสดงว่ามีระดับสติปัญญา ๗๒ (IQ ๗๒) ซึ่งค่อนข้างต่ า จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการ
กระท าความผิด และเด็กยังขาดทักษะในการปฏิเสธ ท าให้เป็นสาเหตุอาจถูกชักชวนให้ไปกระท า
ความผิดได้ง่าย (หากต่ ากว่า ๗๐ จะเข้าเกณฑ์เป็นผู้พการซึ่งสามารถได้รับการสงเคราะห์ หรือฝึกอาชีพ
ิ
ั
ิ
หรือรับเบี้ยช่วยเหลือคนพการ) ๕.สภาพแวดล้อมและที่พกอาศัย ในรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเด็ก/
ื่
เยาวชน เกือบทุกคดีจะพบว่า มีการระบาดของยาเสพติด ปัญหาของอาชญากรรมอนในสังคมที่จ าเลย
อยู่อาศัย ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะทุกที่มีอาชญากรรม แต่ในข้อนี้จะแก้ไขได้หากแก้ไขปัญหาข้อ ๓ ซึ่ง
ิ่
ผู้ปกครองจะต้องเพมเวลาในการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด จากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่า หากกระบวนการยุติธรรมของไทยมีมาตรการกลั่นกรองคดีตั้งแต่ในชั้นเจ้าพนักงานต ารวจที่มี
ื่
ดุลพินิจในการเลือกใช้มาตรการต่าง ๆ ที่เหมาะสมเพอน ามาปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่กระท าความผิด
ในความผิดที่ไม่รุนแรง เช่น ลักทรัพย์ในราคาเล็กน้อย ท าร้ายร่างกาย หรือ ครอบครองยาเสพติดเพยง
ี
เล็กน้อย จะท าให้เราสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับเด็กและเยาวชนในทันท่วงทีโดยใช้มาตรการที่
เหมาะสม
การที่กฎหมายมิได้ให้อานาจดังกล่าวไว้จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่เจ้าพนักงานต ารวจอาจเลือกใช้
วิธีการโดยปล่อยตัวเด็กหรือเยาวชนไปโดยไม่ด าเนินคดีกับเด็กและเยาวชนและคงปล่อยให้เด็กและ
เยาวชนมีปัญหาด้านพฤติกรรมต่อไปจนกลายเป็นผู้กระท าความผิดที่มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตาม
ตัวอย่างคดีลักทรัพย์ข้างต้น จนเด็กผู้นั้นกลายเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมเกินกว่าจะแก้ไขบ าบัดให้กลับตัวเป็น
ิ
้
พลเมืองดีของสังคมและเมื่อพเคราะห์ดูสถิติการใช้มาตรการพเศษหลังฟองคดี ตั้งแต่มีการบังคับใช้
ิ
กฎหมายฉบับปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าศาลเยาวชนและครอบครัว มีการน ามาใช้ปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน
้
มากขึ้นเป็นล าดับจนกระทั่ง ปี พ.ศ.๒๕๖๒ มีใช้ถึง ๙,๒๔๙ คดี จากคดีฟองใหม่ทั้งหมด ๑๔,๘๐๔ คดี
คิดเป็นร้อยละ ๖๒.๔๗ อันเป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่าคดีที่เข้าสู่กระบวนการทางศาลเกินกว่าครึ่งหนึ่ง
ิ
ถูกยุติคดีด้วยวิธีการใช้มาตรการพเศษแทนการด าเนินคดีอาญา ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าหาก
กระบวนการยุติธรรมของไทย มีมาตรการกลั่นกรองคดีที่เหมาะสม เช่น ในชั้นเจ้าพนักงานต ารวจ
(police screening) จะท าให้เราสามารถผลักดันเด็กและเยาวชนออกจากกระบวนการทางศาลอย่าง

