Page 546 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 546
๕๓๔
กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ผู้ประกอบธุรกิจจะยกมาตรา ๑๐ วรรคสามขึ้นอางว่าตนมีสิทธิ
้
ิ
ที่จะน าสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารเพราะไม่อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฏหมายวิธีพจารณาความ
่
แพง มาตรา ๙๔ ไม่ได้ เนื่องจากมาตรา ๑๐วรรคสาม ยกเว้นไม่น ามาตราดังกล่าวมาใช้บังคับแต่เฉพาะแก่
ผู้บริโภคเท่านั้น หาได้ยกเว้นให้ผู้ประกอบธุรกิจไม่
ิ
ค าพพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้องกับหลักการในมาตรา ๑๐ เช่น ค าพิพากษา
้
ศาลฎีกาที่ ๓๗๒๔/๒๕๖๒ ซึ่งเป็นคดีที่โจทก์ผู้ประกอบธุรกิจฟองให้จ าเลยช าระหนี้กู้ยืมเป็นต้นเงิน ๓๐,๐๐๐
ี
บาท พร้อมดอกเบี้ย จ าเลยให้การว่าได้รับเงินกู้จากโจทก์ไปเพยง ๑๕,๐๐๐ บาท แต่โจทก์ให้จ าเลยเขียน
สัญญาว่ากู้ยืมไปตามจ านวนตามฟอง จ าเลยช าระหนี้ให้แก่โจทก์ไปแล้ว ๑๖,๕๐๐ บาท แล้วขอสัญญากู้ยืมคืน
้
ิ
แต่โจทก์ไม่คืนให้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ บัญญัติขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์เพอสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในกระบวนการด าเนินคดีระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ
ื่
ื้
ื่
โดยตระหนักถึงการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายของผู้บริโภคเพอเออประโยชน์ให้ผู้บริโภคสามารถเข้า
กระบวนการยุติธรรมได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ประหยัดและได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง มุ่งหวังที่จะลด
ความเหลื่อมล้ าในเรื่องความสามารถในการต่อสู้คดี และเพอให้การคุ้มครองผู้บริโภคโดยศาลมีประสิทธิภาพ
ื่
ั
ี
ิ
มากยิ่งขึ้น อนอาจกล่าวได้ว่าพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคไม่เพยงแต่คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคใน
ิ
ฐานะที่เป็นโจทก์เท่านั้น แต่มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคในฐานะที่เป็นจ าเลยด้วย หลักการไม่เคร่งครัดในวิธีพจารณา
คดีจึงถูกน ามาบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๐ เพอแก้ไขการ
ิ
ื่
ิ
่
่
ตีความหรือการปรับใช้ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์และประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพง
้
ที่เคร่งครัด ซึ่งเป็นการให้อานาจผู้บริโภคสามารถฟองบังคับผู้ประกอบธุรกิจให้ช าระหนี้ได้แม้นิติกรรมที่
กฎหมายบังคับให้ท าเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดถึงจะฟองร้องบังคับคดีได้จะไม่ได้ถูกท าขึ้นหรือ
้
สัญญาที่ไม่ได้ท าตามแบบที่กฎหมายก าหนดไว้หากผู้บริโภคได้วางมัดจ าหรือช าระหนี้บางส่วน ทั้งยังไม่ให้น า
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔ มาใช้บังคับแก่ผู้บริโภคในการฟ้องคดีและการพิสูจน์ถึงนิติ
กรรมหรือสัญญาที่ท าขึ้นระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจ แม้บทบัญญัติดังกล่าวจะใช้ถ้อยค าว่าในการฟ้อง
คดีผู้บริโภค แต่เมื่อพจารณาถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ไม่เพยงต้องการคุ้มครองผู้บริโภคในฐานะโจทก์
ี
ิ
ื้
เท่านั้น หากยังมุ่งคุ้มครองและเป็นการเออสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภคในการด าเนินกระบวนพิจารณากรณีที
เป็นจ าเลยอกด้วย การตีความการบังคับใช้บทบัญญัติดังกล่าวจึงต้องหมายความ รวมถึงการต่อสู้คดีผู้บริโภค
ี
ื่
ด้วยเพอให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้สิทธิของผู้บริโภคทั้งในฐานะโจทก์และจ าเลยสมดังเจตนารมณ์ของ
ี
กฎหมายและเป็นไปตามหลักการไม่เคร่งครัด จ าเลยในฐานะผู้บริโภคจึงมสิทธิน าสืบพยานบุคคลถึงการใช้
ี
ื
่
่
เงินได้ โดยไมอยู่ในบังคับวาการน าสืบการใช้เงินต้องมหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมอชื่อ
ั
ผู้ให้ยืมมาแสดงหรือเอกสารอนเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงใน
เอกสารนั้นแล้ว