Page 545 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 545

๕๓๓


                                ๒.๒ การคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค   การคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับการทาเอกสารสัญญา ได้แก่

                       ุ้
               (๑) การคมครองสิทธิเกี่ยวกับการท านิติกรรมที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือและสัญญาที่ต้องท าตามแบบ และ
                       ุ้
                                                                       ๑๑
               (๒) การคมครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคตามข้อตกลงนอกสัญญา
                                         (๑) การคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับการท านิติกรรมที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือและสัญญาที่

               ต้องท าตามแบบ ตามมาตรา ๑๐ บัญญัติว่า “บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่บังคับให้นิติกรรมใดต้องมีหลักฐานเป็น
                                                    ้
               หนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจึงจะฟองร้องบังคับคดีได้นั้น มิให้น ามาใช้บังคับแก่ผู้บริโภคในการฟอง
                                                                                                       ้
               บังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจช าระหนี้


                                         ในกรณีที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับให้สัญญาที่ท าขึ้นระหว่างผู้บริโภคกับ

               ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องท าตามแบบอย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงแม้สัญญาดังกล่าวยังมิได้ท าให้ถูกต้องตามแบบนั้น

               แต่หากผู้บริโภคได้วางมัดจ าหรือช าระหนี้บางส่วนแล้ว ให้ผู้บริโภคมีอ านาจฟ้องบังคับ ให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดท า

               สัญญาให้เป็นไปตามแบบที่กฎหมายก าหนดหรือช าระหนี้เป็นการตอบแทนได้


                                          ในการด าเนินคดีตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิให้น ามาตรา ๙๔ แห่งประมวล
                           ิ
                                                                                        ิ
               กฎหมายวิธีพจารณาความแพง มาใช้บังคับแก่ผู้บริโภคในการฟองคดีผู้บริโภคและการพสูจน์ถึงนิติกรรมหรือ
                                        ่
                                                                    ้
               สัญญาที่ท าขึ้นระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจ”
                                           มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง บัญญัติถึงผลบังคับของนิติกรรมใดที่ต้องมีหลักฐานเป็น

               หนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีระหว่างผู้ประกอบธุรกิจกับผู้บริโภค โดยใช้ถ้อยค า

               ว่า “...มิให้น ามาใช้บังคับแก่ผู้บริโภค...” แสดงว่าบทบัญญัติ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง มุ่งประสงค์ที่จะให้ความ
               คุ้มครองเฉพาะแต่ผู้บริโภคเท่านั้น ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจะอ้างบทบัญญัติดังกล่าวขึ้นเพอใช้สิทธิฟองผู้บริโภค
                                                                                                ้
                                                                                        ื่
               ให้ช าระหนี้ไม่ได้ ส่วนมาตรา ๑๐ วรรคสอง เป็นกรณีที่กฎหมายบังคับให้สัญญาที่ท าขึ้นระหว่างผู้บริโภคกับ

               ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องท าตามแบบอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครอง  ตามมาตรา ๑๐วรรค

               สอง ต้องเป็นผู้บริโภคที่ได้วางมัดจ าหรือช าระหนี้บางส่วนแล้วเท่านั้น


                                                   ส าหรับมาตรา ๑๐ วรรคสาม ก าหนดเป็นหลักเกณฑ์ว่า ในการด าเนินคดีกรณี
               กฎหมายบังคับให้นิติกรรมใดต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือและกรณีกฎหมายบังคับให้สัญญาต้องท าตามแบบ อัน

               เป็นกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง มาตรา
                                                                                                  ่
                                                             ่
               ๙๔ นั้น ห้ามน าประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพงมาตรา ๙๔ มาใช้บังคับ แสดงให้เห็นว่ากฎหมายมุ่ง
                                                ิ
               คุ้มครองเฉพาะผู้บริโภคเท่านั้น หาได้คุ้มครองไปถึงผู้ประกอบธุรกิจไม่ ดังนั้น ในทางตรงกันข้ามกรณีที่มี




                       ๑๑  ธานิศ เกศวพิทักษ์, ค าอธิบายกฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค, ปี ๒๕๕๑, พิมพ์ครั้งที่ ๒, (กรุงเทพมหานคร: พล
               สยาม พริ้นติ้ง (ประเทศไทย), ๒๕๕๑), หน้า ๕๒-๖๐
   540   541   542   543   544   545   546   547   548   549   550