Page 592 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 592
580
ให้เข้ามาเป็นผู้ให้ค่าปรึกษาแนะน่าแก่เด็กหรือเยาวชนและครอบครัว เพอแบ่งเบาภาระนักจิตวิทยาให้ท่า
ื่
หน้าที่ประเมินสภาพปัญหาและหาแนวทางแก้ไขบ่าบัดฟื้นฟูเด็กหรือเยาวชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาระหน้าที่ที่มีมากดังกล่าว นักจิตวิทยาคงท่างานในลักษณะตั้งรับอยู่ที่ศาล
เท่านั้น ไม่อาจออกไปแสวงหาข้อเท็จจริงในพนที่ภูมิล่าเนาของเด็กหรือเยาวชนได้ จึงได้หาทางแก้ไขด้วย
ื้
การประสานความร่วมมือกับผู้อ่านวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดราชบุรี ซึ่งมีหน้าที่
ในการสืบเสาะและพินิจเรื่องอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สภาพร่างกาย สภาพ
จิต นิสัย อาชีพ และฐานะของเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระท่าความผิด และของบิดา มารดา ผู้ปกครอง
หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วย ตลอดจนสิ่งแวดล้อมทั้งปวงเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนนั้น รวมทั้ง
ื่
ิ
่
๒๒
สาเหตุแห่งการกระท่าความผิด เพอรายงานต่อศาล โดยขอให้ผู้อานวยการสถานพนิจประเมินสภาพ
ปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขบ่าบัดฟนฟูเด็กหรือเยาวชนรวมทั้งผู้ปกครองของเด็กหรือเยาวชนเพมเติมใน
ิ่
ื้
รายงานข้อเท็จจริงที่เสนอต่อศาลเพื่อพิจารณาด้วย
นอกจากนี้เพื่อประเมินสภาพปัญหาของเด็กหรือเยาวชนให้ครบถ้วนและรอบด้าน ศาลยังพิจารณา
ิ
ิ
ข้อมูลที่ได้จากการสืบพยานหรือการซักถามของผู้พพากษาที่พจารณาคดีน่ามาใช้ประกอบกับข้อมูลที่ได้
ื้
ื่
ู
ข้างต้น เพอค้นหาด้านที่เสียหายของเด็กหรือเยาวชนว่ามีสิ่งใดบ้างที่ต้องได้รับการแก้ไขบ่าบัดฟนฟ และมี
ื่
ด้านที่ดีอะไรบ้างที่ควรส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กหรือเยาวชนปฏิบัติเพอให้เด็กหรือเยาวชนได้ใช้ชีวิตอยู่ใน
สังคมต่อไปได้อย่างมีคุณค่า
ื่
นอกจากนี้ยังมีรายงานข้อเท็จจริงอน ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ศาลจะน่ามาประกอบการประเมินสภาพ
ปัญหาของเด็กหรือเยาวชน เช่น ในกรณีที่นักจิตวิทยาตรวจพบว่าเด็กหรือเยาวชนซึ่งศาลสั่งให้เข้ารับ
ค่าปรึกษาจากศูนย์ให้ค่าปรึกษาฯ ตั้งแต่ในชั้นตรวจสอบการจับอาจมีสภาพจิตหรือจิตบกพร่องหรือมีข้อ
สงสัยว่าเด็กหรือเยาวชนใช้สารเสพติดหรือไม่ ศาลจะสั่งให้เด็กหรือเยาวชนเข้ารับการตรวจโดยแพทย์
เฉพาะทางจากโรงพยาบาล แล้วรายงานผลการตรวจให้ศาลทราบ หรือกรณีที่ศาลต้องการทราบถึง
ั
สภาพแวดล้อมที่เด็กหรือเยาวชนอยู่อาศัยอาจขอให้ส่านักงานพฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
จังหวัดลงพนที่เพอสืบเสาะแล้วรายงานให้ทราบ เป็นต้น ซึ่งศาลจะน่ารายงานเหล่านี้มาประกอบเพอ
ื่
ื่
ื้
ื่
ู
ประเมินสภาพปัญหาของเด็กหรือเยาวชน เพอจัดท่าแผนหรือก่าหนดมาตรการแก้ไขบ่าบัดฟนฟเด็กหรือ
ื้
เยาวชนและครอบครัวต่อไป
กรณีที่ศาลเห็นว่าข้อมูลที่ได้รับยังไม่เพยงพอหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนเปลี่ยนแปลง
ี
ิ่
ไปจากเดิม ศาลอาจให้ประเมินสภาพปัญหาของเด็กหรือเยาวชนและครอบครัวเพมด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
ิ
่
๑) มีค่าสั่งให้ผู้อานวยการสถานพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนด่าเนินการตามมาตรา ๑๑๖
และมาตรา ๑๑๗ เนื่องจากในคดีที่มีอตราโทษจ่าคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท
ั
่
ผู้อานวยการสถานพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนอาจจะไม่ได้จัดท่ารายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเด็กหรือ
ิ
เยาวชน หรือศาลเห็นว่ารายงานของผู้อานวยการสถานพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับ
่
ิ
๒๒ พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๓๖ (๑)