Page 608 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 608
596
ื้
๓๘
ื่
๒๕๕๓ มาตรา ๑๖ เพอให้การด่าเนินการแก้ไขบ่าบัดฟนฟเด็กและเยาวชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและ
ู
ทิศทางเดียวกัน
การประเมินสภาพปัญหาเป็นเครื่องมือส่าคัญในการจ่าแนกเด็กหรือเยาวชน หากใช้เครื่องมือ
ี
ั
ส่าเร็จรูปเพยงอย่างเดียว โดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูลที่ได้อาจเป็นอนตรายและส่งผลเสียหายต่อเด็กหรือ
เยาวชนได้ ในการประเมินสภาพปัญหาเด็กหรือเยาวชนที่กระท่าความผิดจึงควรมีการตรวจสอบทางด้าน
ร่างกาย จิตใจ ครอบครัวและปัจจัยสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องมีหลายระดับในการวัดความแตกต่างตามความ
เหมาะสมของเด็กหรือเยาวชน ปัจจัยที่ส่าคัญอกอย่างหนึ่ง คือ ทักษะและความสามารถของผู้ประเมิน
ี
เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ใช้เครื่องมือในการประเมินสภาพปัญหาเด็กหรือเยาวชนต้องมีความเป็นมืออาชีพ ต้องมี
ทักษะและความสามารถในการใช้เครื่องมือ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน มีทัศนคติในการ
ท่างานเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน ศาลเยาวชนและครอบครัวและสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
จึงต้องพัฒนาบุคลากรและระบบเพื่อเอออานวยต่อการท างานของเจ้าหน้าที่ ผู้พัฒนาเครื่องมอที่ใช้ใน
ื้
ื
การประเมินต้องศึกษาวิจัยเพื่อสืบหาสาเหตุในการกระท าความผิด ผู้ใช้เครื่องมือต้องเข้าใจการแปลผล
เข้าใจเครื่องมือที่ใช้ให้ตรงกับลักษณะของการประเมินสภาพปัญหา
ในการขับเคลื่อนกระบวนการแก้ไขบ่าบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนแบบองค์รวม โดยมีเด็กและเยาวชน
เป็นศูนย์กลางจ่าเป็นต้องมีบุคคล คณะบุคคล องค์กรและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งชุมชน
เข้ามาร่วมมือกับศาลเยาวชนและครอบครัวในการจัดท่าแผนแก้ไขบ่าบัดฟื้นฟู เป็นผู้บริหารแผน ก่ากับดูแล
ติดตาม สอดส่องให้เด็กหรือเยาวชนและครอบครัวปฏิบัติตามแผนหรือมาตรการในการแก้ไขบ่าบัดฟนฟ ู
ื้
และรายงานผลการปฏิบัติของเด็กหรือเยาวชนและครอบครัวต่อศาล แต่การด าเนินการดังกล่าวยังม ี
ุ
่
่
ปัญหาและอปสรรคมากมาย ไมวาจะเป็นทัศนคติและความสามารถของผู้บริหารของศาลเยาวชนและ
ื
่
ี
่
ครอบครัวแต่ละแห่งวามทักษะความเข้าใจในการติดต่อประสานขอความร่วมมอหรือไม ดังนั้น
ส านักงานศาลยุติธรรมจึงต้องเข้ามามบทบาทและส่งเสริมให้ศาลเยาวชนและครอบครัวแต่ละแห่งรับ
ี
จดแจ้งบุคคล คณะบุคคล องค์กรและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งชุมชนแห่งท้องถิ่นนั้นให้
เข้ามาเป็นภาคีเครือข่าย ในการแก้ไขบ าบัดฟื้นฟูเด็กหรือเยาวชนให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ
กฎหมาย และหากมความจ าเป็นอาจต้องแก้ไขพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวธี
ิ
ี
พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๓๓ เพื่อให้ศาลเยาวชนและครอบครัวสามารถ
รับจดแจ้งบุคคล คณะบุคคล องค์กรหรือหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่นของตนให้
หลากหลาย เพื่อให้เข้ามาร่วมมอกับศาลเยาวชนและครอบครัวด าเนินกระบวนการแก้ไขบ าบัดฟื้นฟู
ื
ิ
เด็กหรือเยาวชนและครอบครัวในทุกมติ มใช่เฉพาะส่วนราชการและองค์การด้านเด็ก เยาวชน สตรี
ิ
หรือครอบครัวตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓ เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในการจัดท่าบทความครั้งนี้ ผู้เขียนได้พบว่าในระหว่างปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ศาลเยาวชน
และครอบครัวกลางจัดท่า “โครงการบูรณาการสร้างเสริมสวสดิภาพเด็ก เยาวชน และครอบครัวใน
ั
๓๘ พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๖
ี