Page 651 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 651

639



                 ในแนวทางเดียวกับความหมายของค าว่า “ผู้ประกอบการ”ตามพระราชบัญญัติความรับผิด

                 ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยฯ
                                                                           ื่
                                                    ิ
                        ส่วนปัญหาเกี่ยวกับภาระการพสูจน์ในเรื่องความรับผิดเพอความช ารุดบกพร่องของสินค้า
                                  ิ
                                                                                                    ิ
                 พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ และประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ได้จ ากัดภาระการพสูจน์
                                                                         ่
                 และความรับผิดของผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องรับผิดในความช ารุดบกพร่องไว้เพยงเฉพาะความช ารุดบกพร่อง
                                                                                ี
                 ที่มีอยู่ก่อนหรือขณะส่งมอบสินค้าให้กับผู้บริโภคเท่านั้น และมีค ามีพพากษาฎีกาที่ ๔๕๖๗/๒๕๖๑
                                                                              ิ
                 วางแนวคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องสินค้าช ารุดบกพร่องที่ไม่อาจเห็นประจักษ์ย้อนกลับไปถึงเวลาขณะส่งมอบ
                 สินค้า เพอให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องรับผิดในความช ารุดบกพร่องและเป็นการปิดช่องทางไม่ให้ผู้ประกอบ
                         ื่
                 ธุรกิจปฏิเสธความรับผิดได้ แม้พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ มาตรา ๒๙ จะก าหนดหลักเกณฑ์
                                                           ิ
                 เรื่องภาระการพสูจน์ที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การออกแบบ หรือส่วนผสมของสินค้า
                              ิ
                 การให้บริการ หรือการด าเนินการใด ๆ หากข้อเท็จจริงนั้นอยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของคู่ความ

                 ฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ ไว้อย่างกว้าง ๆ โดยไม่ได้ก าหนดกรอบของเวลาไว้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีบทบัญญัติ
                 แห่งกฎหมายโดยชัดเจนที่ให้ความคุ้มครองผู้บริโภคต่อสินค้าที่ช ารุดบกพร่องที่ไม่เห็นประจักษ์ภายหลัง

                 การส่งมอบสินค้า ท าให้ภาระการพิสูจน์ตามมาตรา ๒๙ ที่มีพื้นฐานมาจากกฎหมายสารบัญญัติและแนวคิด

                 ความรับผิดโดยเคร่งครัดไม่อาจน ามาปรับใช้กับปัญหานี้ได้โดยปริยาย ดังนั้น เพอให้บทบัญญัติมาตรา ๒๙
                                                                                   ื่
                                                                                              ื่
                 สามารถน ามาใช้บังคับได้สมดังเจตนารมณ์ในการบัญญัติกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพอคุ้มครอง
                                                                                   ื่
                       ื้
                 และเออประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง จึงควรแก้ไขกฎหมายเพอก าหนดความรับผิด
                 ของผู้ประกอบธุรกิจในกรณีที่สินค้าเกิดความช ารุดบกพร่องไว้ให้ชัดเจนว่า ผู้ประกอบธุรกิจต้องรับผิด
                 ในความช ารุดบกพร่องของสินค้าที่ไม่เห็นประจักษ์และเกิดขึ้นภายหลังจากวันที่ส่งมอบด้วย

                 โดยอาจก าหนดไว้ว่าใช้บังคับกับสินค้าใหม่และมีกรอบเวลาไว้ เช่น หากเกิดความช ารุดบกพร่องภายใน
                 ๑ ปีหลังส่งมอบ หรือภายในก าหนดเวลาที่ผู้ผลิตหรือผู้จ าหน่ายรับประกันคุณภาพสินค้า เป็นต้น

                        และประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการก าหนดวิธีการเยียวยาความเสียหายในเรื่องความช ารุดบกพร่อง

                                                          ิ
                 ได้ศึกษาเฉพาะมาตรา ๔๑ พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ ที่ก าหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้บริโภค
                         ้
                 สามารถฟองผู้ประกอบธุรกิจให้รับผิดในความช ารุดบกพร่องของสินค้าได้ โดยหากความช ารุดบกพร่อง
                 มีอยู่ในขณะส่งมอบสินค้าและไม่อาจแก้ไขให้กลับคืนสภาพที่ใช้งานได้ตามปกติ หรือถึงแม้จะแก้ไขแล้ว
                 แต่หากน าไปใช้บริโภคแล้วอาจเกิดอนตรายแก่ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัยของผู้บริโภคที่ใช้สินค้านั้น
                                                ั

                 ให้ศาลมีอานาจให้ผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้แก่ผู้บริโภคแทนการซ่อมแซมสินค้านั้นได้
                 แต่บทบัญญัติมาตรานี้ไม่ได้ก าหนดไว้ว่า หากข้อเท็จจริงฟงได้ว่าสินค้ามีความช ารุดบกพร่องจริง
                                                                     ั
                               ิ
                 แต่ศาลไม่ใช้ดุลพนิจสั่งให้เปลี่ยนสินค้าหรือสั่งให้ท าการแก้ไขให้กลับคืนสภาพที่ใช้งานได้ตามปกติ ศาลมี


                 อานาจสั่งชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินแทนได้ทันที ท าให้ในทางปฏิบัติศาลต้องน ามาตรา ๓๙ ที่ให้อานาจ
                 ศาลพพากษาเกินค าขอมาปรับใช้เพอแก้ไขเยียวยาความเสียหายในเรื่องความช ารุดบกพร่องให้แก่ผู้บริโภค
                                              ื่
                      ิ
                                 ิ
                 แทนตามแนวค าพพากษาฎีกาที่ ๔๕๖๗/๒๕๖๑ แต่อาจเกิดปัญหาในการตีความบังคับใช้มาตรา ๓๙
                                                        ื่
                 ได้บางกรณีดังที่ได้วิเคราะห์ไว้ข้างต้น ดังนั้น เพอให้เกิดความแน่นอนที่ผู้บริโภคจะได้การชดใช้ค่าเสียหาย
   646   647   648   649   650   651   652   653   654   655   656