Page 649 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 649

637




                               ๔. การเรียกเก็บสินค้า (Recall Product Market) ได้ก าหนดให้ศาลมีอานาจสั่งให้
                 ผู้ประกอบธุรกิจเรียกเก็บสินค้าคืนได้ โดยก าหนดให้เรียกเก็บสินค้าที่ยังไม่จ าหน่ายให้ผู้บริโภคกลับคืน
                 จนกว่าจะได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสินค้าดังกล่าวให้มีความปลอดภัย และหากเป็นที่สงสัยว่า


                                                   ื่
                 ผู้ประกอบธุรกิจจะเก็บสินค้าที่เหลือไว้เพอจ าหน่ายต่อไป ให้ศาลมีอานาจสั่งผู้ประกอบธุรกิจท าลายสินค้า
                             ๔๐
                 ที่เหลือนั้นด้วย
                        ในบทความนี้มุ่งกล่าวถึงมาตรา ๔๑ ส าหรับเรื่องสินค้าช ารุดบกพร่อง ในกรณีที่ผู้บริโภค

                  ้
                 ฟองผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นผู้ผลิต ผู้จ าหน่าย หรือผู้ให้เช่าซื้อให้รับผิดเฉพาะขอให้เปลี่ยนสินค้านั้น
                 แม้มาตรานี้จะก าหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้บริโภคสามารถฟองผู้ประกอบธุรกิจให้รับผิดในความช ารุดบกพร่อง
                                                              ้
                 ของสินค้าได้ โดยหากความช ารุดบกพร่องมีอยู่ในขณะส่งมอบสินค้าและไม่อาจแก้ไขให้กลับคืนสภาพ

                 ที่ใช้งานได้ตามปกติ หรือถึงแม้จะแก้ไขแล้วแต่หากน าไปใช้บริโภคแล้วอาจเกิดอนตรายแก่ร่างกาย สุขภาพ
                                                                                  ั

                 หรืออนามัยของผู้บริโภคที่ใช้สินค้านั้น ศาลมีอานาจให้ผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้แก่ผู้บริโภค
                 แทนการซ่อมแซมสินค้านั้นได้ก็ตาม แต่บทบัญญัติมาตรานี้ก็ไม่ได้ก าหนดไว้ว่า หากข้อเท็จจริงฟงได้ว่า
                                                                                                   ั
                                                          ิ
                 สินค้ามีความช ารุดบกพร่องจริง แต่ศาลไม่ใช้ดุลพนิจสั่งให้เปลี่ยนสินค้าหรือสั่งให้ท าการแก้ไขให้กลับคืน
                 สภาพที่ใช้งานได้ตามปกติ ศาลมีอานาจสั่งชดใช้ค่าเสียหายเป็นตัวเงินแทนได้ทันที ท าให้ในทางปฏิบัติ

                                                      ิ
                 ศาลต้องน ามาตรา ๓๙  ที่ให้อานาจศาลพพากษาเกินค าขอมาปรับใช้เพอแก้ไขเยียวยาความเสียหาย
                                                                                ื่
                                    ๔๑

                 ในเรื่องความช ารุดบกพร่องให้แกผู้บริโภคแทนตามแนวค าพพากษาฎีกาที่ ๔๕๖๗/๒๕๖๑ วินิจฉัยโดยสรุป
                                            ่
                                                                  ิ
                 ให้จ าเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินแกโจทก์ ในกรณีที่จ าเลยไม่อาจแก้ไขเหตุช ารุดบกพร่องที่เกิดขึ้นแก่โจทก์
                                               ่
                 ซึ่งเป็นผู้บริโภคได้ อันเป็นการก าหนดให้จ าเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินได้ แม้โจทก์จะไม่ได้มีค าขอให้ชดใช้
                 ค่าเสียหายเป็นเงินก็ตาม ซึ่งการตีความบังคับใช้มาตรา ๓๙ ก็อาจมีปัญหาในบางประการ เช่น ในกรณีที่
                 ผู้บริโภคฟองผู้ประกอบธุรกิจหลายคนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าช ารุดบกพร่องที่เป็นผู้ผลิต ตัวแทนจ าหน่าย
                          ้
                 และผู้ให้เช่าซื้อสินค้า แต่มีค าขอท้ายค าฟองขอให้บังคับตัวแทนจ าหน่ายและผู้ให้เช่าซื้อเปลี่ยนสินค้า
                                                     ้
                 ส่วนผู้ผลิตมีค าขอให้รับประกันสินค้าต่อไปภายหลังการเปลี่ยนสินค้าและชดใช้ค่าเสียหาย หากข้อเท็จจริง

                 ฟงได้ว่าสินค้าช ารุดบกพร่องเกิดจากการผลิตของผู้ผลิต แต่ศาลไม่ได้สั่งให้เปลี่ยนสินค้าหรือแก้ไข
                  ั
                 และให้เฉพาะผู้ผลิตชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีแนวค าพพากษาฎีกาที่ ๑๔๕๕/๒๕๖๒  สรุปได้ว่า
                                                                                             ๔๒
                                                                 ิ
                 เมื่อข้อเท็จจริงฟงยุติว่า รถยนต์พพาทช ารุดบกพร่อง จ าเลยที่ ๒ และที่ ๓ ซึ่งเป็นตัวแทนจ าหน่ายรถยนต์
                              ั
                                            ิ
                 ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจจึงต้องร่วมกับจ าเลยที่ ๑ ผู้ผลิตรับผิดต่อโจทก์ ส่วนข้อยกเว้นความรับผิดในความ
                 ช ารุดบกพร่องของจ าเลยที่ ๔ ผู้ให้เช่าซื้อเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมใช้บังคับไม่ได้ จ าเลยที่ ๔ จึงต้อง

                 ร่วมรับผิดต่อโจทก์ด้วย ตามกรณีตัวอย่างหากถือตามแนวค าพิพากษาฎีกาข้างต้น ย่อมมีผลให้ตัวแทน
                 จ าหน่ายและผู้ให้เช่าซื้อสินค้าต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายกับผู้ผลิตต่อผู้บริโภคด้วย แต่ในกรณีนี้

                 การตีความบังคับใช้มาตรา ๓๙ เกิดปัญหาว่าเมื่อมีผู้ผลิตที่ต้องรับผิดอยู่แล้ว ศาลยังจะสามารถน ามาตรา ๓๙


                        ๔๐  พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๔๓ (๒)

                        ๔๑  พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๓๙
                        ๔๒  ค าพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๕๕/๒๕๖๒
   644   645   646   647   648   649   650   651   652   653   654