Page 646 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 646
634
ิ
ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าชนิดนั้น ๆ โดยเฉพาะการที่กฎหมายก าหนดหน้าที่และภาระการพสูจน์ในประเด็นที่
เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยผลักภาระไปยังผู้ประกอบธุรกิจจึงเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค
ึ้
มากขน ตลอดจนเป็นการส่งเสริมจริยธรรมในการด าเนินธุรกิจและป้องปรามผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่สุจริต
ั
อนเป็นประโยชน์ต่อการพฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการและยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิต
ั
ของคนในสังคม
แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องความรับผิดในความช ารุดบกพร่องของสินค้านั้น ประมวลกฎหมายแพง
่
ิ
และพาณิชย์หรือพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ ก็จ ากัดภาระการพสูจน์และความรับผิด
ิ
ี
ของผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องรับผิดในความช ารุดบกพร่องไว้เพยงเฉพาะความช ารุดบกพร่องที่มีอยู่ก่อน
หรือขณะส่งมอบสินค้าให้กับผู้บริโภคเท่านั้น ตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพง
่
และพาณิชย์ มาตรา ๔๗๒ ถึง ๔๗๔ และพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ มาตรา ๒๙ โดยมี
ิ
ค าพพากษาฎีกาที่ ๔๕๖๗/๒๕๖๑ วางแนวไว้โดยสรุปว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟงได้ว่าความช ารุดบกพร่อง
ั
ิ
เกิดจากการที่ชิ้นส่วนหรือการประกอบไม่ได้มาตรฐานมาแต่ต้น ความช ารุดบกพร่องจึงมีอยู่ในขณะส่งมอบ
เพียงแต่ไม่เห็นประจักษ์และแสดงผลภายหลังจากใช้งานไปประมาณ ๗ เดือน จ าเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ร่วมกน
ั
รับประกันการซ่อมบ ารุงรักษายังต้องร่วมกันรับผิดในความช ารุดบกพร่องดังกล่าว ค าพพากษาฎีกาฉบับนี้
ิ
จึงถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องสินค้าช ารุดบกพร่องที่ไม่อาจเห็นประจักษ์ย้อนกลับไปถึงเวลาขณะ
ส่งมอบสินค้า เพอให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องรับผิดในความช ารุดบกพร่องและเป็นการปิดช่องทาง
ื่
ไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจปฏิเสธความรับผิดได้ โดยปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายโดยชัดเจน
ที่ให้ความคุ้มครองผู้บริโภคต่อสินค้าที่ช ารุดบกพร่องที่ไม่เห็นประจักษ์ภายหลังการส่งมอบสินค้า ทั้งที่
ื่
การผลิตสินค้าเพอน าเข้าสู่ท้องตลาดของผู้ประกอบธุรกิจในปัจจุบันมีลักษณะเป็นการจ าหน่ายสินค้า
ในวงกว้าง ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้โดยง่าย โดยผู้ผลิตสินค้าต่างพยายามหาวิธีการผลิตที่สามารถ
ื่
แข่งขันกับผู้ผลิตรายอน ท าให้กระบวนการผลิตโดยวิธีการกระจายสินค้าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ื่
เป็นอย่างมาก การผลิตเพอมุ่งแสวงหาก าไรจ านวนมากจึงใช้วัตถุดิบด้อยคุณภาพเพอที่จะผลิตสินค้า
ื่
ได้ปริมาณมาก ๆ ทั้งพยายามกระจายสินค้าให้สามารถจ าหน่ายได้มากที่สุด บางครั้งอาจท าให้คุณภาพ
ของสินค้านั้นลดลงส่งผลไปยังผู้บริโภคที่ได้รับอนตรายจากสินค้าด้อยคุณภาพจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
ั
ี
ในกระบวนการผลิตหรือจ าหน่ายสินค้าโดยเฉพาะสินค้าหรือที่ผู้บริโภคไม่สามารถทราบรายละเอยด
และขั้นตอนการผลิตสินค้าได้เท่าที่ควร ผู้บริโภคย่อมไม่อาจพบเห็นความช ารุดบกพร่องของสินค้าได้
ในเวลาส่งมอบสินค้า และการผลิตสินค้าออกสู่ตลาดจ านวนมากย่อมมีโอกาสที่กระบวนการผลิต
ิ
จะก่อให้เกิดสินค้าที่มีความช ารุดบกพร่องหลังจากการส่งมอบได้ แม้พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดี
ิ
ผู้บริโภคฯ มาตรา ๒๙ จะก าหนดหลักเกณฑ์เรื่องภาระการพสูจน์ที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับ
การผลิต การประกอบ การออกแบบ หรือส่วนผสมของสินค้า การให้บริการ หรือการด าเนินการใด ๆ
หากข้อเท็จจริงนั้นอยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของคู่ความฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจไว้อย่างกว้าง ๆ ไม่ได้
ก าหนดกรอบของเวลาไว้ แต่เมื่อบทบัญญัติที่เป็นความรับผิดของผู้ประกอบธุรกิจในเรื่องสินค้าช ารุด
ิ
ื้
บกพร่องที่ไม่เห็นประจักษ์ภายหลังส่งมอบยังไม่มี ภาระการพสูจน์ตามมาตรา ๒๙ ที่มีพนฐานมาจาก