Page 642 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 642

630



                 ความเป็นธรรมในการใช้สิทธิของผู้บริโภคทั้งในฐานะโจทก์และจ าเลยสมกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย

                 และเป็นไปตามหลักการไม่เคร่งครัด จ าเลยในฐานะผู้บริโภคจึงมีสิทธิน าสืบพยานบุคคลถึงการใช้เงินได้
                 โดยไม่อยู่ในบังคับว่าการน าสืบการใช้เงินต้องมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ให้ยืม

                                                                                       ิ
                                    ั
                 มาแสดงหรือเอกสารอนเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพกถอนลงในเอกสาร
                                                ่
                                                                                ๒๔
                 นั้นแล้ว ตามที่ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ วรรคสอง  บัญญัติไว้ ซึ่งเมื่อน าหลัก
                                                                                                  ิ
                 ความไม่เคร่งครัดมาปรับใช้กับความหมายของค าว่า “ผู้ประกอบธุรกิจ” ตามพระราชบัญญัติวิธีพจารณา
                 คดีผู้บริโภคฯ มาตรา ๓ ในคดีเกี่ยวกับสินค้าที่ช ารุดบกพร่อง จึงควรจะต้องตีความขยายไปในความหมาย
                 ของคู่สัญญาที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจตามความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับสินค้าชิ้นนั้นจนถูกน าเข้าสู่ท้องตลาด

                 และถึงมือผู้บริโภคเช่นเดียวกับค านิยามของความหมายของค าว่า “ผู้บริโภค” ที่มองตามความเป็นจริง

                 โดยไม่น าหลักความรับผิดเฉพาะคู่กรณีในสัญญาทางแพง (Privity of Contract) มาใช้ตามแนว
                                                                     ่
                     ิ
                 ค าพพากษาฎีกาที่ ๙๐๓๔/๒๕๔๓ หรือในความหมายเช่นเดียวกับค าว่า “ผู้ประกอบการ” ตามพระราชบัญญัติ
                 ความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยฯ ซึ่งมีความหมายอย่างกว้าง นอกจากนี้
                                                                           ๒๕
                 แม้ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคฯ มาตรา ๔๑ วรรคสอง  จะให้อ านาจศาลในคดีที่ผู้บริโภค

                                                          ้
                 หรือผู้มีอานาจฟองคดีแทนผู้บริโภคเป็นโจทก์ฟองขอให้ผู้ประกอบธุรกิจรับผิดในความช ารุดบกพร่อง
                               ้
                                                                                  ื่
                 ของสินค้าที่จะเรียกผู้ผลิตหรือผู้น าเข้าสินค้าที่ไม่ได้ถูกฟองด้วยเข้ามาในคดีเพอร่วมรับผิดกับผู้ประกอบ
                                                                ้
                                                   ิ
                 ธุรกิจที่ถูกฟองตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพง มาตรา ๕๗ (๓) ก็ตาม แต่ก็จ ากัดเฉพาะบุคคล
                           ้
                                                                ่
                 ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจเพยงสองประเภทซึ่งไม่คลอบคลุมถึงผู้ประกอบธุรกิจอน ๆ ที่มีส่วนในการ
                                       ี
                                                                                      ื่
                                                           ื่

                 น าสินค้าเข้าสู้ท้องตลาดตามความเป็นจริง ทั้งนี้ก็เพอให้ผู้บริโภคสามารถกาหนดตัวบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ
                 ในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าช ารุดบกพร่องได้โดยง่ายโดยอาศัยจากความสัมพนธ์ของผู้ประกอบธุรกิจ
                                                                                     ั
                 ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสินค้าที่ช ารุดบกพร่องก่อนถูกน าเข้าสู่ท้องตลาดหรือจากข้อความหรือสิ่งบ่งชี้ต่าง ๆ
                 ที่ระบุไว้ในตัวสินค้า อนเป็นการเออประโยชน์รวมถึงคุ้มครองแก่ผู้บริโภคที่ไม่จ าเป็นต้องแสวงหาพยานหลักฐาน
                                  ั
                                            ื้
                 มาใช้ในการฟองร้องในกรณีที่ไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานไปถึงผู้ประกอบธุรกิจอนที่ไม่ใช่คู่สัญญา
                            ้
                                                                                          ื่
                 โดยตรงตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ มาตรา ๑๑ ซึ่งก่อให้เกิดภาระแก่ผู้บริโภค
                                                    ิ
                 หรือหลีกเลี่ยงการใช้ดุลพนิจของศาลที่จะวินิจฉัยว่าจะให้ผู้ประกอบธุรกิจอนที่ไม่ใช่คู่สัญญาโดยตรง
                                                                                  ื่
                                       ิ
                 ต้องรับผิดเพราะเหตุความไม่สุจริตและไม่ค านึงถึงมาตรฐานทางการค้าที่เหมาะสมภายใต้ระบบธุรกิจ
                                                                                        ี่
                 ที่เป็นธรรมด้วย อันก่อให้เกิดความไม่แน่นอนและอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคทได้รับความเสียหาย
                 โดยไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไขอย่างที่ควรจะเป็น









                        ๒๔  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ วรรคสอง
                        ๒๕  พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๔๑ วรรคคสอง
   637   638   639   640   641   642   643   644   645   646   647