Page 677 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 677

๖๖๕




                                  ิ
                   ื่
                                         ั
                                                 ๔
                 เพอรับโทษตามค าพพากษาอนถึงที่สุด  ทั้งนี้ กฎหมายอาญาของทุกประเทศจะบัญญัติเรื่องอายุความ ทั้ง
                                                            ้
                 สองชนิดนี้ไว้ว่าการไม่ได้ตัวผู้กระท าความผิดมาฟองภายในก าหนดเวลาก็ดี หรือการไม่ได้ตัวผู้ที่ต้อง


                 ค าพพากษาถึงที่สุดมารับโทษภายในก าหนดเวลาก็ดี ท าให้รัฐหมดอานาจที่จะด าเนินคดีหรือหมดอานาจที่
                     ิ
                 จะบังคับโทษแก่ผู้กระท าความผิดหรือผู้ที่ต้องค าพพากษาถึงที่สุดแล้วแต่กรณี เหตุที่กฎหมายอาญาบัญญัติ
                                                          ิ
                 เรื่องอายุความดังกล่าวไว้เพราะการที่ผู้กระท าความผิดต้องหลบหนีท าให้ผู้กระท าความผิดตกอยู่ในความ
                 ล าบาก ซึ่งภาวะนี้เป็นภาวะที่เป็นโทษต่อผู้กระท าความผิดเพราะต้องหลบหนีและซ่อนตัว ทั้งในด้าน
                 พยานหลักฐานในคดีเมื่อเหตุการณ์ผ่านมานานอาจท าให้ความทรงจ าของพยานลดน้อยลง และ

                 พยานหลักฐานบางอย่างสูญหายไป นักนิติศาสตร์มีความเห็นเกี่ยวกับอายุความฟองร้องเป็นสามฝ่าย
                                                                                       ้
                 กล่าวคือ ฝ่ายแรก เห็นว่า เป็น “เหตุยกโทษให้เฉพาะตัว” ฝ่ายที่สอง เห็นว่า เป็น “เงื่อนไขระงับคดี”

                 ส่วนฝ่ายที่สาม เห็นว่า เป็นทั้ง “เหตุยกโทษให้เฉพาะตัว” และ “เงื่อนไขระงับคดี” ส่วนอายุความล่วงเลย

                 การลงโทษนั้น ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับพยานหลักฐาน อายุความล่วงเลยการลงโทษจึงเป็น “เหตุยกโทษ
                 ให้เฉพาะตัว”


                        ๓.๒ หลักเกณฑ์การนับอายุความกรณีท าผิดอาญา

                            (๑) การนับอายุความ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๕
                          หลักเกณฑ์การนับอายุความตามมาตรานี้ แบ่งเป็นสองส่วนตามวรรคแรกและวรรคสอง โดยใน

                 ส่วนของวรรคแรก เป็นการนับอายุความก่อนได้ตัวจ าเลยมาศาล คือจะนับอายุความนับแต่วันกระท า
                 ความผิด ซึ่งวันกระท าความผิดหมายถึงวันที่การกระท าที่เป็นความผิดนั้นจบสิ้นลง โดยวันที่กระท า

                 ความผิดอาจเป็นวันแรกที่ลงมือกระท าตลอดไปจนถึงวันที่การกระท าอนก่อให้เกิดความผิดได้กระท า
                                                                              ั
                 ครบถ้วนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิด ส่วนการนับอายุความตามวรรคสองนั้น เป็นการนับอายุ
                       ้
                 ความฟองร้องสะดุดหยุดลงเพราะการได้ตัวผู้กระท าความผิดมายังศาลท าให้อายุความสะดุดหยุดลง หาก
                 จ าเลยหลบหนีหรือวิกลจริตท าให้ต้องงดการพจารณาเป็นเหตุให้ต้องเริ่มอายุความใหม่ โดยนับตั้งแต่วัน
                                                        ิ
                 หลบหนีหรือวันงดการพิจารณา


                            (๒) การนับอายุความ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๖
                                                                                ั
                            เป็นอายุความร้องทุกข์ หลักเกณ์ตามมาตรานี้คือในกรณีความผิดอนยอมความได้ผู้เสียหายต้อง
                 ร้องทุกข์ให้ด าเนินคดีกับผู้กระท าความผิดภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระท า
                 ความผิด


                            (๓) การนับอายุความ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๘



                        ๔  คณิต ณ นคร, กฎหมายอาญาภาคทั่วไป, พิมพ์ครั้งที่ ๖ แก้ไขเพิ่มเติม, (กรุงเทพมหานคร: วิญญูชน, ๒๕๖๐),
                 น. ๕๒๗-๕๓๓.
   672   673   674   675   676   677   678   679   680   681   682