Page 885 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 885
๘๗๓
ิ
ข้อ ๑๐ กรณีที่ศาลจะลงโทษจ าคุกไม่เกินสามเดือนพงพจารณาเลี่ยงโทษจ าคุกโดยวิธีการ
ึ
ต่อไปนี้ตามล าดับ
(๑) ยกโทษจ าคุกเสียและคงปรับสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๕
(๒) ลงโทษกักขังแทนโทษจ าคุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๓
ื้
ข้อ ๑๑ การกักขังแทนโทษจ าคุกเป็นมาตรการเพอฟนส านึกผู้กระท าผิดที่ไม่ร้ายแรงและ
ื่
ื่
มีโอกาสกลับตัวได้ แต่มีความจ าเป็นต้องจ ากัดเสรีภาพชั่วขณะเพอให้ผู้กระท าผิดได้ตระหนักถึงความ
รับผิดชอบที่พงมีต่อสังคมและเกรงกลัวต่อการกระท าผิดอก จึงควรก าหนดระยะเวลาในการกักขังเพยง
ี
ี
ึ
เท่าที่จ าเป็นต่อการป้องปรามและเหมาะสมแก่พฤติการณ์ของผู้กระท าผิดแต่ละคน โดยอาจก าหนด
ระยะเวลาให้น้อยกว่าโทษจ าคุกที่วางไว้ได้
กรณีศาลจะมีค าพพากษาให้กักขังผู้กระท าผิดไว้ในที่อาศัยของผู้นั้นเอง หรือของผู้อน
ิ
ื่
ที่ยินยอมรับผู้นั้นไว้ หรือสถานที่อนที่อาจกักขังได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔ วรรคสอง
ื่
ึ
ศาลพงพจารณาถึงลักษณะการกระท าความผิดและสภาพของผู้ถูกกักขัง เช่น ผู้ถูกกักขังเป็นผู้สูงอายุ
ิ
ั
ิ่
เป็นหญิงมีครรภ์หรือเพงคลอดบุตร มีสภาพร่างกายไม่เหมาะสมที่จะกักขงไว้ในสถานที่กักขง หรือเจ็บป่วย
ั
ด้วยโรคร้ายแรง ซึ่งถ้าต้องกักขังจะอันตรายแก่ชีวิตหรืออาจจะติดต่อไปยังบุคคลอื่นได้ เป็นต้น
ศาลพงพจารณาสถานที่กักขังว่าอยู่ในสภาพที่เหมาะสมหรือไม่ หากไม่อยู่ในสภาพ
ึ
ิ
ดังกล่าว ศาลอาจมีค าสั่งให้กักขังในสถานที่อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔ วรรคสาม
ตามค าแนะน าของประธานศาลฎีกาดังกล่าว จะเห็นได้ว่าเป็นการวางแนวทางแก่ศาล
ิ
ก่อนที่จะใช้ดุลพนิจในการลงโทษ ทั้งยังก าหนดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์แห่งคดีเช่นไรที่ควรใช้วิธีการ
รอการก าหนดโทษ หรือรอการลงโทษ ดังนั้น แม้การใช้ดุลพนิจในการก าหนดโทษจะแตกต่างไปจากบัญชี
ิ
มาตรฐานการลงโทษของศาล แต่เมื่อได้น าเอาค าแนะน าของประธานศาลฎีกามาปรับใช้เป็นแนวทาง
ในการก าหนดโทษทางอาญาแก่จ าเลยด้วย ก็เชื่อได้ว่าค าพพากษามีมาตรฐาน เพราะผ่านการพจารณา
ิ
ิ
วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนรอบด้าน อนเนื่องมาจากค าแนะน าของประธานศาลฎีกาได้ก าหนดหลักการพจารณา
ิ
ั
ไว้โดยละเอียดแล้ว
ข้อเสนอแนะ
๑. เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับคดีที่ไม่เคยมีแนวตัดสินมาก่อน หรือกรณีที่บัญชีมาตรฐานการ
ลงโทษของศาลก าหนดเกณฑ์ไว้กว้าง ควรปรึกษาขอค าแนะน าจากผู้พิพากษาหัวหน้าศาลซึ่งมีประสบการณ์
ในการท างานที่มากกว่า เพื่อใช้เป็นแนวทางพร้อมกับน าค าแนะน าของประธานศาลฎีกามาปรับใช้ควบคู่กบ
ั
บัญชีมาตรฐานการลงโทษของศาล หลังจากนั้นให้ท าการประชุมในศาลเพอให้ทราบถึงแนวค าตัดสินที่
ื่
วางโทษไปก่อน หากเห็นว่าเหมาะสม ควรยึดถือเป็นมาตรฐานได้ก็ให้ก าหนดไว้ในบัญชีมาตรฐานการ
ลงโทษของศาล หรือควรเปลี่ยนแปลงก็ให้เป็นไปตามมติของที่ประชุม ส่วนกรณีที่มีการก าหนดเกณฑ์ใน
การลงโทษไว้กว้าง ควรประชุมและวางระดับเกณฑ์ในการก าหนดโทษไว้ให้ละเอยดครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ี