Page 886 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 886

๘๗๔


                                                       ิ
                 โดยน าค าแนะน าของประธานศาลฎีกามาพจารณาประกอบ รวมทั้งค านึงถึงทฤษฎีการลงโทษและ
                 วัตถุประสงค์ของการลงโทษด้วย

                                  ๒. เมื่อพบว่าบัญชีมาตรฐานการลงโทษของศาลไม่ได้มีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพ
                                                         ิ
                                                                          ั
                 ปัญหาในปัจจุบัน เช่น เกิดโรคระบาด หรือภัยพบัติต่าง ๆ เป็นต้น อนกระทบกับรายได้และความเป็นอยู่
                 ของประชาชน ควรประชุมก าหนดเกณฑ์ที่จะน ามาใช้ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็ว และ
                 ที่ส าคัญควรปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลา โดยน าค าแนะน าของประธานศาลฎีกามาพจารณาประกอบ
                                                                                          ิ
                 รวมทั้งค านึงถึงทฤษฎีการลงโทษและวัตถุประสงคของการลงโทษด้วย
                                                          ์
                                     ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากการด าเนินการตามขอ ๑ และข้อ ๒ คือ การลงโทษเป็นมาตรฐาน
                                                                   ้
                 เดียวกัน เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ าในกระบวนการยุติธรรม ท าให้การท างานมีประสิทธิภาพ

                 ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในศาล เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม และเป็นไปตามพันธกิจที่ศาลตั้งไว้
                                  ๓. เนื่องจากคดีที่ฟองอาจมีสภาพของปัญหาแตกต่างกัน หรืออาจมีแง่มุมอน ๆ ที่
                                                ้
                                                                                                  ื่
                                                                           ิ
                 ไม่ประจักษ์ชัดซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้เบื้องต้นจากค าฟอง การรีบเร่งพพากษาคดีลงไปอาจเป็นการลงโทษ
                                                              ้
                                                                                         ิ
                 ไม่เหมาะสมกับสภาพและพฤติการณ์ของการกระท าความผิด ทั้งหากมีการอทธรณ์ค าพพากษา เป็นไปได้
                                                                                ุ
                                                                              ิ
                 ที่ศาลสูงจะสั่งให้ศาลชั้นต้นด าเนินการสั่งสืบเสาะและพินิจจ าเลยก่อนมีค าพพากษาของศาลสูง เพื่อมิให้เกิด
                 ปัญหาดังกล่าว กรณีจึงควรที่จะสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจ าเลยก่อน

                                                                             ึ
                                  ๔. เมื่อใดที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้พพากษาและพพากษาคดีพงระลึกถึงถ้อยค าที่ได้ถวายสัตย์
                                                       ิ
                                                                   ิ
                 ปฏิญาณไว้


                 บทสรุป

                                     แม้ว่าการใช้ดุลพินิจในการลงโทษไม่ว่าจะเป็นวิธีการลงโทษจ าคุก รอการก าหนดโทษหรือ

                 ก าหนดโทษแต่รอการลงโทษจ าคุก มีบริบทที่แตกต่างกัน แต่ต่างก็เป็นมาตรการที่ศาลในฐานะผู้บังคับใช้
                 กฎหมายในทางอาญาให้ความส าคัญอย่างยิ่งก่อนที่จะใช้มาตรการใดมาตรการหนึ่ง เนื่องจากหากลงโทษ

                                                                                                   ้
                 จ าคุกผู้กระท าผิด ย่อมส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ ท าให้ขาดโอกาส การยอมรับต่อสังคมเมื่อพนโทษ
                            ื่
                                                          ี
                                         ี
                 และปัญหาอน ๆ ที่ตามมาอกหลายประการ ในอกด้านหนึ่งถ้าเป็นการให้โอกาสแก่ผู้กระท าผิดโดยการ
                 รอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษจ าคุก แม้ดูเหมือนจะเป็นค าตอบที่ดี แต่ในมุมของผู้เสียหายหรือสังคม
                 ล้วนจับจ้องถึงการใช้มาตรการดังกล่าว ด้วยคาดหวังว่าผู้กระท าผิดจะไม่หวนกลับไปกระท าความผิดหรือ
                 ก่ออาชญากรรมซ้ าอก อนเป็นหลักประกันที่มุ่งหมายภายหลังจากศาลมีค าพพากษา การใช้โทษทางอาญา
                                     ั
                                  ี
                                                                                ิ
                                                                                        ื่
                 ของศาลจึงต้องพนิจพเคราะห์อย่างรอบด้านไม่ว่าทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และปัจจัยอนที่เปลี่ยนแปลงไป
                                   ิ
                               ิ
                 อย่างรวดเร็ว ทั้งต้องมีทัศนคติที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงโทษ และที่ส าคัญต้องมีความกล้าในการ
                 ใช้ดุลพนิจที่เหมาะสมเกี่ยวกับตัวผู้กระท าผิดในแต่ละรายบุคคล การยึดติดกับบัญชีมาตรฐานการลงโทษ
                       ิ
                                   ี
                 ของศาลหรือยี่ต็อกเพยงอย่างเดียว โดยไม่สนใจกับสภาพปัญหาที่แท้จริงอาจท าให้ผู้กระท าผิด ผู้เสียหาย
                 และสังคมต้องได้รับผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ ดังนั้น เมื่อใดที่จะใช้ดุลพนิจพพากษาในทางอาญา
                                                                                    ิ
                                                                                        ิ
   881   882   883   884   885   886   887   888   889   890   891