Page 991 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 991
๙๗๙
ื่
ื่
การรอการก าหนดโทษเป็นวิธีการที่กฎหมายก าหนดไว้เพอหลีกเลี่ยงโทษจ าคุกและปรับ เพอให้
โอกาสผู้กระท าความผิดกลับตัวโดยไม่ต้องมีประวัติว่าเคยต้องโทษมาก่อน ประมวลกฎหมายอาญาได้
ก าหนดหลักเกณฑ์การรอการก าหนดโทษไว้ในมาตรา ๕๖ โดยศาลสามารถใช้ดุลพินิจรอการก าหนดโทษใน
ความผิดซึ่งมีโทษจ าคุกหรือปรับหรือในคดีที่ศาลจะลงโทษจ าคุกไม่เกินห้าปีหรือลงโทษปรับ หรือผู้กระท า
ความผิดเคยรับโทษจ าคุกมาก่อนได้
ประธานศาลฎีกา ให้ความส าคัญถึงวิธีการรอการก าหนดโทษ และส่งเสริมให้น าวิธีการรอการ
๒
ก าหนดโทษที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ มาใช้ ประธานศาลฎีกาจึงออกค าแนะน า
ของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับวิธีการรอการก าหนดโทษ การรอการลงโทษ และการก าหนดเงื่อนไขเพอคุม
ื่
ิ
๓
ความประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มีหลักเกณฑ์ส าคัญให้ผู้พพากษาใช้พจารณาประกอบดุลพนิจรอการก าหนด
ิ
ิ
ื่
โทษได้อย่างเหมาะสม โดยมุ่งเน้นส าหรับการกระท าความผิดครั้งแรกเพอจ าเลยยังไม่สมควรที่จะถูกลงโทษ
ิ
ให้มีมลทินติดตัว และเพอเป็นการเน้นย้ าให้ศาลใช้ดุลพนิจในการรอการก าหนดโทษมากขึ้น ประธานศาลฎีกา ๔
ื่
จึงออกค าแนะน าของประธานศาลฎีกาว่า ด้วยแนวทางการใช้โทษอาญา พ.ศ. ๒๕๖๓ ก าหนดให้บัญชี
๕
มาตรฐานโทษถือเป็นเพยงข้อแนะน า หากศาลเห็นว่าการรอการก าหนดโทษได้สัดส่วนเหมาะสมกับการ
ี
ู
ื้
กระท าความผิดและเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขฟนฟผู้กระท าความผิด ศาลอาจพพากษาแตกต่างไปจาก
ิ
ั
บัญชีมาตรฐานโทษได้ อนเป็นมาตรการทางเลือกอนนอกจากการลงโทษจ าคุกหรือปรับในความผิดอาญา
ื่
ื่
๖
ที่ไม่ร้ายแรง เพอให้โอกาสผู้กระท าความผิดกลับตัวโดยไม่ต้องมีประวัติว่าเคยต้องโทษมาก่อน ศาลแขวง
๗
ิ
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา ๒๕ (๕) ก าหนดให้มีอานาจพจารณาพพากษาคดีอาญาอตราโทษ
ั
ิ
อย่างสูงไว้ให้จ าคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท คดีจึงอยู่ในหลักเกณฑ์ที่อาจรอการก าหนด
โทษได้ตามค าแนะน าของประธานศาลฎีกาดังกล่าว
บทความนี้ผู้เขียนต้องการน าเสนอถึงปัญหาการใช้ดุลพินิจในการรอการก าหนดโทษ โดยศึกษาถึง
แนวความคิดทฤษฎีของการลงโทษ วัตถุประสงค์ของการลงโทษ หลักกฎหมายในการรอก าหนดโทษโดย
ศึกษาตามประมวลกฎหมายอาญาและค าแนะน าของประธานศาลฎีกา วิเคราะห์ปัญหาจากผลค าพพากษา
ิ
๒ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกาคนที่ ๔๓
๓ ค าแนะน าของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับวิธการรอการก าหนดโทษ การรอการลงโทษ และการก าหนดเงอนไข
ื่
ี
เพื่อคุมความประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
๔ นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกาคนที่ ๔๖
๕ ค าแนะน าของประธานศาลฎีกาว่าด้วยแนวทางการใช้โทษอาญา มีผลใชบังคับตั้งแต่ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
้
๖ ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยแนวปฏิบัติในการออกหมายจับและหมายค้นในคดีอาญา พ.ศ.
่
๒๕๔๕ ข้อ ๑๐ ก าหนดไว้วา “...๑๐.๑ ผู้จะถูกออกหมายจับน่าจะได้กระท าความผิดอาญาร้ายแรงตามที่กฎหมายบัญญัติ
แต่ระหว่างที่ยังมิได้มีกฎหมายดังกล่าว ก็ควรถือแนวปฏิบัติในการใชดุลพินิจของศาลว่าหมายถึงความผิดที่มีอัตราโทษ
้
จ าคุกอย่างสูงเกินสามปี...”
๗ พระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา ๒๕ บัญญัติว่า “ในศาลชนต้น ผู้พิพากษาคนเดียวเป็นองค์คณะมีอ านาจ
ั้
เกี่ยวแก่คดีซึ่งอยู่ในอ านาจของศาลนั้น ดังต่อไปนี้ ...(๕) พิจารณาพิพากษาคดีอาญา ซึ่งกฎหมายก าหนดอัตราโทษอย่างสูง
ไว้ให้จ าคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ...”

