Page 995 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 995

๙๘๓


                 ควรถูกส่งเข้าสู่ระบบเรือนจ า ยังไม่มีการน ามาใช้กับผู้ที่จะถูกลงโทษปรับรวมทั้งไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่เคย

                                  ี
                 ต้องโทษจ าคุกแม้เพยงเล็กน้อยหรือมิใช่ผู้กระท าผิดติดนิสัยได้รับโอกาสในการรอการก าหนดโทษหรือรอ
                 การลงโทษ ...” วัตถุประสงค์ในการบัญญัติหลักเกณฑ์การรอการก าหนดโทษจึงสอดคล้องกับทฤษฎีการ

                                   ื้
                         ื่
                 ลงโทษเพอการแก้ไขฟนฟูผู้กระท าความผิด (Rchabiliation)  กล่าวคือ เมื่อศาลใช้ดุลพนิจรอการก าหนด
                                                                                         ิ
                 โทษได้เหมาะสมแก่ผู้กระท าความผิดแต่ละรายแล้ว การลงโทษในลักษณะดังกล่าวนี้จะสามารถก่อให้เกิด
                                                          ั
                 ประโยชน์ที่ดีแก่ผู้กระท าความผิด ในด้านการพฒนา หรือการปรับปรุงแก้ไขผู้กระท าความผิดเพอให้
                                                                                                     ื่
                 ผู้กระท าความผิดสามารถกลับคืนสู่สังคมโดยปกติสุขได้
                        หลักกฎหมาย

                            หลักกฎหมายที่ต้องการศึกษา  คือ หลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญาและหลักเกณฑ์

                 ตามค าแนะน าของประธานศาลฎีกา

                 หลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา
                         ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖  บัญญัติว่า “ผู้ใดกระท าความผิดซึ่งมีโทษจ าคุกหรือ

                                                                                    ็
                 ปรับ และในคดีนั้นศาลจะลงโทษจ าคุกไม่เกินห้าปีไม่ว่าจะลงโทษปรับด้วยหรือไม่กตามหรือลงโทษปรับ ถ้า
                 ปรากฏว่าผู้นั้น

                          (๑) ไม่เคยรับโทษจ าคุกมาก่อน หรือ

                          (๒) เคยรับโทษจ าคุกมาก่อนแต่เป็นโทษส าหรับความผิดที่ได้กระท าโดยประมาท หรือความผิด
                 ลหุโทษ หรือเป็นโทษจ าคุกไม่เกินหกเดือน หรือ

                        (๓) เคยรับโทษจ าคุกมาก่อนแต่พ้นโทษจ าคุกมาแล้วเกินกว่าห้าปี แล้วมากระท าความผิดอีก โดย

                 ความผิดในครั้งหลังเป็นความผิดที่ได้กระท าโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
                         และเมื่อศาลได้ค านึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรมสุขภาพ ภาวะ

                 แห่งจิต นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของผู้นั้น หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึกความผิด และพยายาม

                                                ั
                 บรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น หรือเหตุอนอนควรปรานีแล้ว ศาลจะพพากษาว่าผู้นั้นมีความผิดแต่รอการก าหนด
                                             ื่
                                                                     ิ
                 โทษหรือก าหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้ ไม่ว่าจะเป็นโทษจ าคุกหรือปรับอย่างหนึ่งอย่างใดหรือทั้งสองอย่าง
                         เพอให้โอกาสกลับตัวภายในระยะเวลาที่ศาลจะได้ก าหนดแต่ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ศาล
                            ื่
                 พิพากษา โดยจะก าหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้นั้นด้วยหรือไม่ก็ได้

                         เงื่อนไขเพอคุมความประพฤติของผู้กระท าความผิดตามวรรคหนึ่ง ศาลอาจก าหนดข้อเดียวหรือ
                                  ื่
                 หลายข้อตามควรแก่กรณีได้ ดังต่อไปนี้
                                                                                ื่
                         (๑) ให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานที่ศาลระบุไว้เป็นครั้งคราว เพอเจ้าพนักงานจะได้สอบถาม
                 แนะน า ช่วยเหลือ หรือตักเตือนตามที่เห็นสมควรในเรื่องความประพฤติและการประกอบอาชีพ หรือจัดให้
                 กระท ากิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์

                         (๒) ให้ฝึกหัดหรือท างานอาชีพอันเป็นกิจจะลักษณะ
   990   991   992   993   994   995   996   997   998   999   1000