Page 996 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 996

๙๘๔


                         (๓) ให้ละเว้นการคบหาสมาคมหรือการประพฤติใดอนอาจน าไปสู่การกระท าความผิดในท านอง
                                                                     ั
                 เดียวกันอีก
                         (๔) ให้ไปรับการบ าบัดรักษาการติดยาเสพติดให้โทษ ความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจ หรือ

                 ความเจ็บป่วยอย่างอื่น ณ สถานที่และตามระยะเวลาที่ศาลก าหนด

                         (๕) ให้เข้ารับการฝึกอบรม ณ สถานที่และตามระยะเวลาที่ศาลก าหนด
                         (๖) ห้ามออกนอกสถานที่อยู่อาศัย หรือห้ามเข้าในสถานที่ใดในระหว่างเวลาที่ศาลก าหนด ทั้งนี้

                 จะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจ ากัดการเดินทางด้วยก็ได้
                         (๗) ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือเยียวยาความเสียหายโดยวิธีอื่นให้แก่ผู้เสียหายตามที่ผู้กระท า

                 ความผิดและผู้เสียหายตกลงกัน

                                     ื้
                         (๘) ให้แก้ไขฟนฟหรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพยากรธรรมชาติ หรือสิ่งแวดล้อมหรือ
                                        ู
                 ชดใช้ค่าเสียหายเพื่อการดังกล่าว
                         (๙) ให้ท าทัณฑ์บนโดยก าหนดจ านวนเงินตามที่ศาลเห็นสมควรว่าจะไม่ก่อเหตุร้ายหรือ
                 ก่อให้เกิด ภยันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน
                         ๑๖
                                                                      ื่
                                                                               ื้
                                      ื่
                         (๑๐) เงื่อนไขอน ๆ ตามที่ศาลเห็นสมควรก าหนดเพอแก้ไข ฟนฟ หรือป้องกันมิให้ผู้กระท า
                                                                                  ู
                 ความผิดกระท าหรือมีโอกาสกระท าความผิดขึ้นอก หรือเงื่อนไขในการเยียวยาผู้เสียหายตามที่เห็นสมควร...”
                                                        ี
                        เมื่อพจารณาบทบัญญัติมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง เห็นได้ว่าหลักเกณฑ์ในการรอการก าหนดโทษ มี
                             ิ
                 ดังนี้
                        ๑. คดีที่มีโทษจ าคุกหรือโทษปรับ
                        ๒. คดีที่ศาลจะลงโทษจ าคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือจะลงโทษปรับ

                        ๓. เคยรับโทษจ าคุกมาก่อนเป็นโทษส าหรับความผิดที่ได้กระท าโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
                                                                                                      ๑๗
                        ๔. เคยรับโทษจ าคุกมาก่อนเป็นโทษจ าคุกไม่เกิน ๖ เดือน

                        ๕. เคยรับโทษจ าคุกมาก่อนในความผิดที่ได้กระท าโดยเจตนาเกินกว่า ๖ เดือน แล้วพ้นโทษจ าคุก

                 มาแล้ว ๕ ปี โดยความผิดครั้งหลังเป็นความผิดที่ได้กระท าโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
                        ๖. ศาลค านึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรมสุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย

                 อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของผู้นั้น หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึก ความผิด และพยายามบรรเทาผลร้ายที่
                 เกิดขึ้น หรือเหตุอื่นอันควรปรานีแล้ว

                                                                                 ้
                                                                                               ู
                                                                                                 ื่
                        ส่วนวรรคสองเป็นกรณีที่ศาลเห็นว่าผู้กระท าความผิดควรได้รับการแกไขปรับปรุงฟื้นฟเพอป้องกัน
                 มิให้ผู้กระท าความผิดซ้ าศาลจะก าหนดเงื่อนไขเพอคุมความประพฤติของผู้กระท าความผิดภายในเวลาที่
                                                          ื่
                 ก าหนด



                        ๑๗  ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๐๒  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย

                 อาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ บัญญัติว่า “ความผิดลหุโทษ คือ ความผิดซึ่งต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือ
                 ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ”
   991   992   993   994   995   996   997   998   999   1000   1001