Page 102 - รายงานประจำปี 2564 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 102

ในที่ดิน ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับ

            การที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
            กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา ๙

            วรรคหนึ่ง (๑)  แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง

            และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อยู่ในอำนาจ
            พิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง (คำวินิจฉัยที่

            ๑๓๓/๒๕๖๓)

                   เมื่อพิจารณาคำร้อง คำขอของโจทก์ตลอดจน
            คำให้การของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่แล้ว เห็นได้ว่า คดีนี้

            ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศแจก

            หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒
            โดยผู้ฟ้องคดีทั้งสี่อ้างว่า ที่ดินพิพาทเดิมอยู่ในเขต

            ป่าสงวนแห่งชาติ และได้มีการออกพระราชกฤษฎีกา
            กำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแล้ว

            จึงมีผลเป็นการเพิกถอนสภาพความเป็นป่าสงวน

            แห่งชาติ ไม่มีสภาพเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ทำเล  ที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
            เลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภท  ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง

            พลเมืองใช้ร่วมกัน ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่เป็นผู้ครอบครอง  และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และเมื่อการ
            ทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท ซึ่งหากสำนักงานการปฏิรูป  ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงของผู้ถูกฟ้องคดี

            ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ผู้ฟ้องคดี  เป็นการใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายที่ดินที่มี

            ทั้งสี่ก็จะเป็นผู้มีสิทธิได้เข้าทำประโยชน์ก่อนบุคคลอื่น   ผลกระทบต่อสถานภาพสิทธิและหน้าที่ของบุคคล
            ดังนั้น ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้ คือ ที่ดิน  จึงเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา  ๕  แห่ง

            ที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่อ้างว่าตนได้ครอบครองทำประโยชน์  พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง

            อยู่นั้น ตั้งอยู่ในเขตดำเนินการของสำนักงานการปฏิรูป  พ.ศ. ๒๕๓๙ ข้อพิพาทในคดีนี้กรณีจึงเป็นคดีพิพาท
            ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หรือเป็นที่ดินที่เป็น  เกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่

            สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน   ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม

            ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่จึงเป็นเพียงผู้ได้รับความเดือดร้อน  มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง

            เสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ ๓ ออกหนังสือ  ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
            สำคัญสำหรับที่หลวงทับที่ดินที่ผู้ฟ้องคดีครอบครอง  การฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง
            ทำประโยชน์ เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ฟ้องโต้แย้งว่าการ  โดยอ้างว่าเป็นที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการ

            ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงดังกล่าวไม่ชอบด้วย  เกษตรกรรม จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษา

            กฎหมาย จึงเป็นกรณีที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ฟ้องเจ้าพนักงาน  ของศาลปกครอง








          100    ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี  ๒ ๕ ๖ ๔

                 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107