Page 105 - รายงานประจำปี 2564 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 105

คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล  เห็นเองตามมาตรา ๑๐ วรรคสามนั้น ชอบที่จะเป็นกรณี

               (คำสั่ง) ที่ ๒๐/๒๕๕๐                             ที่ศาลเห็นเองว่าคดีอยู่ในเขตอำนาจของศาลอื่น ดังนั้น
                       คดีที่เอกชนทั้งสองยื่นฟ้องการไฟฟ้า  เมื่อปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมิได้กระทำตามวิธีการ

               ส่วนภูมิภาคอำเภอบ้านค่าย เทศบาลตำบลบ้านค่าย   ที่กฎหมายกำหนด ทั้งกรณีที่ศาลเห็นเองว่าอยู่ในอำนาจ

               หน่วยงานทางปกครองเป็นจำเลยว่า จำเลยทั้งสอง  ของศาลตนเองก็ไม่ใช่กรณีที่ถือได้ว่ามีปัญหาขัดแย้งกัน
               ละเลยไม่ดูแลตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยในอุปกรณ์  เกี่ยวกับเขตอำนาจศาล กรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติ

               ไฟฟ้าทั้งหมดที่จำเลยทั้งสองนำมาติดตั้งไว้ ทำให้  ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดฯ

               กระแสไฟฟ้าเป็นเหตุให้มารดาของโจทก์ที่ ๑ และ  มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่งและวรรคสาม  ให้จำหน่ายเรื่อง

               เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ ๒  ออกจากสารบบความ ตามข้อบังคับคณะกรรมการ
               เสียชีวิต ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกัน  วินิจฉัยชี้ขาดฯ ข้อ ๒๙ (๒)


               ชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง              คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
               จำเลยที่ ๒ ให้การว่า ความรับผิดจากการละเมิดตามฟ้อง  (คำสั่ง) ที่ ๕๑/๒๕๖๐

               อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของ           จำเลยโต้แย้งเขตอำนาจศาลไว้ในคำให้การว่า
               เจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งโจทก์ทั้งสองได้ดำเนินการ  คดีไม่อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม โดยไม่ได้ทำเป็น

               ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว คดีจึงอยู่ในอำนาจ  คำร้องยื่นต่อศาลเป็นการเฉพาะ จึงเป็นการโต้แย้ง

               ของศาลปกครอง ต่อมาทนายจำเลยทั้งสองแถลง  เขตอำนาจศาลที่ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติว่าด้วย
               ด้วยวาจาต่อศาลจังหวัดระยองว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจ  การวินิจฉัยชี้ขาดฯ ทั้งไม่ใช่กรณีที่ศาลเห็นเองว่า

               การพิจารณาของศาลปกครอง ศาลจังหวัดระยอง  คดีไม่อยู่ในอำนาจของศาลตนเองอันจะถือได้ว่า
               จัดทำความเห็นโดยเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจ  มีปัญหาขัดแย้งกันเกี่ยวกับเขตอำนาจศาล กรณี

               ของศาลตนแล้วส่งให้ศาลปกครอง เมื่อพระราชบัญญัติ  จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วย

               ว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดฯ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง   การวินิจฉัยชี้ขาดฯ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง และ
               กำหนดว่า หากคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องเห็นว่าคดี  วรรคสาม อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วย

               อยู่ในเขตอำนาจของอีกศาลหนึ่งก็จะต้องยื่นคำร้อง  การวินิจฉัยชี้ขาดฯ มาตรา ๑๗ วรรคสอง ประกอบ

               ก่อนวันสืบพยานของศาลยุติธรรม แต่การโต้แย้ง  ข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดฯ ข้อ ๒๙ (๒)
               เขตอำนาจศาลของจำเลยทั้งสองในกรณีนี้เป็น  ให้จำหน่ายเรื่องออกจากสารบบความ

               การโต้แย้งไว้ในคำให้การและแถลงด้วยวาจาต่อศาล            คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
               โดยไม่ได้จัดทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลเป็นการเฉพาะ   (คำสั่ง) ที่ ๓๔/๒๕๖๒

               จึงเป็นการโต้แย้งเขตอำนาจศาลที่ไม่ชอบ ทั้งการ           พระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาด

               ทำความเห็นเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล  อำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐
               ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดฯ เป็นกรณี  วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่มีการฟ้องคดีต่อศาลใด

               ที่ศาลจัดทำความเห็นของตนเกี่ยวกับเขตอำนาจศาล  ถ้าคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องเห็นว่า คดีดังกล่าวอยู่ใน

               ตามข้อโต้แย้งที่เริ่มกระบวนการโดยการทำเป็นคำร้อง  เขตอำนาจของอีกศาลหนึ่ง ให้ยื่นคำร้องต่อศาล
               ตามมาตรา ๑๐ วรรคหนึ่งก่อน ส่วนในกรณีที่ศาล  ที่รับฟ้องก่อนวันสืบพยานสำหรับศาลยุติธรรมหรือ





                                                                           ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี  ๒ ๕ ๖ ๔  103
                                                                           คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110