Page 18 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 18
๑๔
7. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 129/๒๕60
ประเด็นข้อพิพำท : ผู้เรียกร้องมีสิทธิขอคืนค่ำปรับพร้อมดอกเบี้ยหรือไม่ เพียงใด
คู่พิพำทน ำสืบพยำนแล้วข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ เมื่อวันที่ 9 ธันวำคม 2556 ผู้คัดค้ำนได้
ว่ำจ้ำงผู้เรียกร้องก่อสร้ำงงำน โครงสร้ำง-สถำปัตยกรรมและงำนภำยนอกโครงกำรโรงงำนและคลังสินค้ำ บริษัท ล.
จ ำกัด โดยตกลงค่ำจ้ำงรวมวัสดุ-อุปกรณ์ ค่ำเครื่องมือ เครื่องจักร ค่ำแรงงำนและภำษีอำกรต่ำง ๆ เป็นเงินจ ำนวน
ทั้งสิ้น 410,000,000 บำท มีก ำหนดเวลำแล้วเสร็จภำยในวันที่ 25 ตุลำคม 2557 โดยผู้คัดค้ำนว่ำจ้ำงบริษัท อ.
เป็นผู้ควบคุมงำน ผู้เรียกร้องได้ส่งมอบงำนล่ำช้ำกว่ำก ำหนดระยะเวลำที่ผู้คัดค้ำนขยำยให้ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกรำคม
2558 ถึงวันที่ 15 กรกฎำคม 2558 เป็นเวลำ 196 วัน ผู้คัดค้ำนจึงปรับผู้เรียกร้องเป็นเงินจ ำนวน
38,317,757.01 บำท และค่ำปรับส ำหรับกำรควบคุมงำน ตำมสัญญำข้อที่ 7.2 ค่ำปรับวันละ 383,177.57 บำท
คิดเป็นค่ำปรับเป็นเงินจ ำนวน 75,102,808.72 บำท แต่ตำมสัญญำดังกล่ำวคิดค่ำปรับสูงสุดได้ไม่เกินร้อยละ 10
ผู้คัดค้ำนจึงปรับในอัตรำร้อยละ 10 เป็นเงินทั้งสิ้นจ ำนวน 38,317,757.01 บำท (ไม่รวมภำษีมูลค่ำเพิ่ม) และ
ค่ำปรับส ำหรับกำรควบคุมงำน ตำมสัญญำข้อ 7.2 อีกวันละ 15,000 บำท ของจ ำนวน 196 วัน เป็นเงินจ ำนวน
2,940,000 บำท คิดเป็นเงินค่ำปรับรวมทั้งสิ้นเป็นเงินจ ำนวน 41,257,757.01 บำท
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
คณะอนุญำโตตุลำกำรพิจำรณำตำมทำงน ำสืบและพยำนเอกสำรหลักฐำนแล้ว เห็นควรวินิจฉัยตำม
ประเด็นข้อพิพำทดังนี้
กำรที่ผู้คัดค้ำนอนุมัติให้ผู้เรียกร้องขยำยระยะเวลำก่อสร้ำงครั้งที่ 2 ผู้คัดค้ำนก ำหนดเงื่อนไขว่ำ
หำกผู้เรียกร้องก่อสร้ำงไม่เสร็จตำมที่อนุมัติให้ขยำยเวลำก่อสร้ำง ผู้คัดค้ำนสงวนสิทธิที่จะปรับผู้เรียกร้องตำมสัญญำ
ผู้คัดค้ำนได้ถือเอำก ำหนดเวลำตำมสัญญำเป็นสำระส ำคัญ เมื่อผู้เรียกร้องส่งมอบงำนทั้งหมดให้แก่ผู้คัดค้ำน ในวันที่
15 กรกฎำคม 2558 ได้ล่วงเลยก ำหนดเวลำที่ผู้คัดค้ำนขยำยให้เป็นเวลำ 196 วัน ถือว่ำผู้เรียกร้องผิดสัญญำ
ผู้คัดค้ำนจึงมีสิทธิปรับผู้เรียกร้องตำมสัญญำ หำกมีเหตุที่ผู้เรียกร้องไม่สำมำรถท ำงำนให้แล้วเสร็จตำมก ำหนดใน
สัญญำ ผู้เรียกร้องจะต้องรำยงำนเหตุดังกล่ำวต่อผู้คัดค้ำนโดยพลัน เพื่อขอขยำยระยะเวลำก่อสร้ำง แต่ผู้เรียกร้องก็หำ
ได้กระท ำเช่นนั้นไม่ ผู้เรียกร้องเพิ่งมีหนังสือขอสงวนสิทธิขยำยระยะเวลำก่อสร้ำงเพรำะเหตุดังกล่ำวออกไปอีก
1,211 วัน นับถัดจำกวันที่ผู้คัดค้ำนขยำยระยะเวลำให้แก่ผู้เรียกร้อง ซึ่งขณะนั้นล่วงเลยก ำหนดระยะเวลำที่ผู้คัดค้ำน
ขยำยระยะเวลำก่อสร้ำงให้แก่ผู้เรียกร้องไปแล้ว
ส่วนกรณีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำ สมควรคืนค่ำปรับให้แก่ผู้เรียกร้องหรือไม่ เพียงใด ตำมประมวล
กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 383 บัญญัติว่ำ “ถ้ำเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วน ศำลจะลดลงเป็นจ ำนวน
พอสมควรก็ได้ ในกำรที่จะวินิจฉัยว่ำสมควรเพียงใดนั้น ให้พิเครำะห์ถึงทำงได้เสียของเจ้ำหนี้ทุกอย่ำงอันชอบด้วย
กฎหมำย ไม่ใช่แต่เพียงทำงได้เสียในเชิงทรัพย์สิน เมื่อได้ใช้เงินตำมเบี้ยปรับแล้ว สิทธิขอลดก็เป็นอันขำดไป” กรณีที่
ผู้เรียกร้องต้องท ำงำนตำมค ำสั่งเปลี่ยนแปลงงำน ชนิดของงำน งำนเพิ่มนอกเหนือจำกสัญญำและกำรแก้ไข
เปลี่ยนแปลงงำนบำงส่วนที่ท ำเสร็จแล้ว เหตุดังกล่ำวย่อมต้องใช้เวลำในกำรท ำงำนเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้เรียกร้องมีสิทธิที่จะขอ
ขยำยระยะเวลำท ำงำนดังกล่ำวได้ แต่ผู้เรียกร้องก็หำได้ใช้สิทธิ เมื่อผู้เรียกร้องท ำงำนจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยส่งมอบให้
ผู้คัดค้ำนเข้ำใช้ประโยชน์สมดังวัตถุประสงค์ของสัญญำ เพียงแต่ล่ำช้ำไปบ้ำงเช่นนี้ จึงเห็นสมควรให้ลดค่ำปรับให้แก่
ผู้เรียกร้อง โดยให้ปรับผู้เรียกร้องเพียง 22,940,000 บำท และให้ผู้คัดค้ำนคืนเงินค่ำปรับแก่ผู้เรียกร้องเป็นเงิน
21,000,000 บำท
ส่วนที่ผู้เรียกร้องขอคิดดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ 7.5 ต่อปี จำกค่ำปรับที่ขอคืน นับแต่วันที่ผู้เรียกร้อง
ทวงถำมนั้น เมื่อกำรที่ผู้คัดค้ำนหักเงินค่ำปรับไว้เป็นกำรใช้สิทธิตำมสัญญำจ้ำงโดยชอบของผู้คัดค้ำน และให้ผู้คัดค้ำน
คืนค่ำปรับบำงส่วนแก่ผู้เรียกร้อง ผู้เรียกร้องจึงไม่มีสิทธิจะได้ดอกเบี้ยจำกเงินค่ำปรับที่ได้รับคืน (เทียบเคียงค ำ
พิพำกษำศำลฎีกำที่ 903/2537 ระหว่ำงห้ำงหุ้นส่วนไชยโชติก่อสร้ำง (2476) โจทก์ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำร
ประถมศึกษำแห่งชำติ จ ำเลย) เมื่อค่ำปรับที่ต้องคืนนั้นเป็นหนี้เงิน หำกผู้คัดค้ำนผิดนัดย่อมต้องรับผิดช ำระดอกเบี้ย
อัตรำร้อยละ 7.5 ต่อปี