Page 56 - บทคัดย่อเล่ม 1
P. 56
๕๒
25. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 46/2562
ประเด็นข้อพิพำท : 1. ข้อพิพำทขำดอำยุควำมหรือไม่
2. ผู้เรียกร้องมีสิทธิเรียกร้องตำมข้อเรียกร้องหรือไม่ เพียงใด
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ ผู้เรียกร้องได้ยื่นฟ้องผู้คัดค้ำนต่อศำลแพ่ง เมื่อวันที่ 24 พฤษภำคม
2554 ในข้อหำผิดสัญญำจ้ำงท ำของ เรียกค่ำเสียหำยจ ำนวน 17,494,601.89 บำท ซึ่งศำลชั้นต้นได้พิพำกษำให้
ผู้คัดค้ำนช ำระเงินแก่ผู้เรียกร้องจ ำนวน 11,012,060.81 บำท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่
วันที่ 9 มีนำคม 2553 ผู้คัดค้ำนจึงได้ยื่นอุทธรณ์หลำยประเด็นรวมทั้งในประเด็นที่ผู้เรียกร้องได้ยื่นฟ้องโดยมิได้เสนอ
ข้อพิพำทต่ออนุญำโตตุลำกำรก่อน ซึ่งศำลอุทธรณ์ได้พิพำกษำให้ยกค ำพิพำกษำของศำลชั้นต้นให้จ ำหน่ำยคดี ให้โจทก์
และจ ำเลยไปด ำเนินกำรทำงอนุญำโตตุลำกำรก่อนและต่อมำศำลฎีกำได้พิพำกษำยืนตำมศำลอุทธรณ์
ศำลแพ่งได้อ่ำนค ำพิพำกษำของศำลฎีกำให้คู่ควำมฟังเมื่อวันที่ 13 กันยำยน 2559 โดยในวันอ่ำน
ค ำพิพำกษำของศำลฎีกำนั้น ผู้รับมอบฉันทะทนำยโจทก์ (ผู้เรียกร้อง) ก็ได้ไปฟังค ำพิพำกษำ ผู้เรียกร้องจึงได้ทรำบผล
ของค ำพิพำกษำแล้ว ต่อมำผู้เรียกร้องจึงได้ยื่นข้อเรียกร้องนี้เมื่อวันที่ 16 มกรำคม 2560
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
คณะอนุญำโตตุลำกำรพิจำรณำแล้วเห็นว่ำ ผู้เรียกร้องได้ขอให้ผู้คัดค้ำนช ำระเงินเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่หนึ่ง เป็นค่ำจ้ำงงำนก่อสร้ำงของเดือนเมษำยน 2552 เดือนพฤษภำคม 2552 และค่ำงำนเพิ่ม ส่วนที่สอง
เป็นกำรเรียกเงินค่ำประกันผลงำนคืนจ ำนวน 3,038,800.31 บำท พร้อมด้วยดอกเบี้ยตำมกฎหมำย
ในส่วนที่หนึ่งซึ่งผู้เรียกร้องขอให้ผู้คัดค้ำนช ำระค่ำจ้ำงที่ค้ำงและค่ำงำนที่เพิ่มขึ้นนั้น เห็นว่ำ
ผู้เรียกร้องและผู้คัดค้ำนได้ตกลงเลิกสัญญำจ้ำง ตำมเอกสำรหมำย ร.6 ต่อกัน โดยได้ท ำบันทึกเลิกสัญญำจ้ำงลงวันที่
29 พฤษภำคม 2552 ซึ่งในข้อ 1. ได้ตกลงกันให้ผู้เรียกร้องยุติกำรท ำงำนในวันที่ 31 พฤษภำคม 2552 และในข้อ
2. ก็ได้ตกลงให้สัญญำสิ้นผลในวันที่ 31 พฤษภำคม 2552 ดังนั้น สัญญำจ้ำงตำมเอกสำรหมำย ร.4 จึงสิ้นสุดลง
ผู้เรียกร้องมีสิทธิบังคับเรียกร้องค่ำจ้ำงตำมสัญญำได้ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภำคม 2552 ซึ่งพิจำรณำประมวลกฎหมำย
แพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 193/34(17) ผู้เรียกร้องจะต้องใช้สิทธิภำยในวันที่ 31 พฤษภำคม 2554 เมื่อผู้เรียกร้อง
ได้เป็นโจทก์ฟ้องคดีต่อศำลแพ่ง ในวันที่ 24 พฤษภำคม 2554 กำรฟ้องในขณะนั้นจึงยังไม่ขำดอำยุควำม
ต่อมำ ศำลแพ่งได้อ่ำนค ำพิพำกษำของศำลฎีกำให้ทั้งสองฝ่ำยฟังเมื่อวันที่ 13 กันยำยน 2559
ให้จ ำหน่ำยคดีเพื่อให้ผู้เรียกร้องได้ด ำเนินกำรทำงอนุญำโตตุลำกำรเสียก่อนตำมสัญญำหลัก เอกสำรหมำย ร.4
ประกอบเอกสำรหมำย ร.6 ซึ่งตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 193/17 วรรคสอง ผู้เรียกร้องจะต้อง
ด ำเนินกำรทำงอนุญำโตตุลำกำรภำยใน 60 วัน คือ ภำยในวันที่ 12 กันยำยน 2559 แต่ผู้เรียกร้องได้ยื่นข้อเรียกร้อง
นี้เมื่อวันที่ 16 มกรำคม 2560 ข้อเรียกร้องในส่วนนี้จึงได้ยื่นข้อเรียกร้องเกินก ำหนด 60 วัน
คณะอนุญำโตตุลำกำรวินิจฉัยว่ำ ข้อเรียกร้องส่วนนี้ขำดอำยุควำมแล้ว เมื่อคดีส่วนนี้ขำดอำยุควำม
แล้วก็ไม่จ ำต้องวินิจฉัยในรำยละเอียดของกำรท ำกำรก่อสร้ำงว่ำถูกต้องตำมสัญญำอีกหรือไม่และมีค่ำงำนเพิ่มอีก
หรือไม่อีกต่อไป
ในส่วนที่สองซึ่งผู้เรียกร้องได้ขอให้ผู้คัดค้ำนคืนเงินค่ำประกันผลงำนจ ำนวน 3,038,800.31 บำท
พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ 7.5 ต่อปีนั้น เห็นว่ำ เงินจ ำนวนนี้เป็นเงินค่ำประกันผลงำนตำมเอกสำรหมำย ร.4 ข้อ
4 วรรคแรก ซึ่งผู้คัดค้ำนได้หักไว้จ ำนวน 5% จำกเงินค่ำจ้ำงที่ผู้คัดค้ำนต้องช ำระให้แก่ผู้เรียกร้องในแต่ละงวด ซึ่งเมื่อได้
พิจำรณำตำมเอกสำรหมำย ร.4 ข้อ 3 เห็นได้ว่ำก่อนที่ผู้เรียกร้องจะหักเงินประกันไว้ได้นั้นผู้เรียกร้องและผู้คัดค้ำน
ต้องปฏิบัติตำมข้อ 3 (6) คือ ผู้คัดค้ำนจะต้องให้ผู้เรียกร้องส่งหลักฐำนกำรขอเบิกค่ำจ้ำงส ำหรับงำนที่ท ำเสร็จในงวด
นั้นๆ พร้อมรำยละเอียดตำมสัญญำ ให้วิศวกร ผู้บริหำรและผู้ควบคุมงำนก่อสร้ำงของ ผู้ว่ำจ้ำงตรวจสอบและรับรอง
ควำมถูกต้องก่อน ทั้งวิศวกร ผู้บริหำรและผู้ควบคุมงำนก่อสร้ำงของผู้ว่ำจ้ำงจะท ำกำรตรวจสอบและออกใบรับควำม
ถูกต้องให้ ซึ่งผู้เรียกร้องก็จะได้รับเงินที่ขอเบิกไป แต่หำกกำรตรวจสอบแล้วเห็นว่ำกำรขอเบิกเงินค่ำจ้ำงไม่ตรงกับ
ผลงำนที่แท้จริง ก็จะรับรองเฉพำะส่วนที่เป็นผลงำนที่เกิดขึ้นจริง แต่ก่อนที่จะจ่ำยเงินค่ำจ้ำงให้ ผู้คัดค้ำนก็ใช้สิทธิหัก
เงินประกันไว้ 5% โดยในหลักฐำนกำรจ่ำยก็จะแสดงไว้ชัดเจนถึงจ ำนวนเงินค่ำจ้ำงงวดนั้นๆ (ซึ่งรวมเงินที่รับจริงกับ