Page 88 - annual 2561
P. 88

คดีพิพาทเกี่ยวกับการเลิกจ้างอาจารย์


            ในสถานศึกษาเอกชน


            อยู่ในเขตอำานาจของศาลใด







                    การให้บริการด้านการศึกษาถือเป็นบริการสาธารณะอย่างหนึ่งของรัฐใน              โดย
                                                                                           ธนิศรา สิงหาจุลเกตุ
            ประเทศไทย นอกจากรัฐจะเป็นผู้จัดให้มีการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาโดยการ      ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำา
                                                                                         กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
            จัดตั้งมหาวิทยาลัยของรัฐแล้ว ยังเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมจัดการเรียนการสอนได้  ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัย
            โดยมีเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ อีกด้วย บุคคล    ชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล
            ที่ท�าหน้าที่หลักในการจัดการเรียนการสอนในสถาบันอุดมศึกษาเอกชนมีการก�าหนด

            ความหมายไว้ตามบทนิยามของมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษา
            พ.ศ. ๒๕๔๖ ว่า “คณาจารย์” หมายความว่า ศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์พิเศษ
            รองศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์พิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์

            พิเศษอาจารย์และอาจารย์พิเศษ ซึ่งท�าหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัย
            ในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ดังนั้นบุคลากรในสถาบันการศึกษาตามที่กล่าวมานี้จึงถือ

            เป็นบุคคลที่มีบทบาทส�าคัญที่จะท�าให้การด�าเนินการบริการสาธารณะด้านการศึกษา
            บรรลุผล อย่างไรก็ตามการจะพิจารณาว่ากรณีที่เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาจ้าง
            ระหว่างคณาจารย์และสถาบันการศึกษาเอกชนอยู่ในเขตอ�านาจของศาลใดนั้น มีสิ่งที่

            ต้องพิจารณาดังต่อไปนี้

                                                                                 ๑
                    ๑.  เขตอ�านาจศาลตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๙๔
                       ๒
            มาตรา ๑๙๗  ส�าหรับข้อพิพาทเกี่ยวกับการเลิกจ้างอาจารย์ในสถาบันการศึกษาคงมี
            ประเด็นเรื่องเขตอ�านาจศาลให้พิจารณาเพียงว่าคดีอยู่ในเขตอ�านาจของศาลยุติธรรม
            หรือศาลปกครอง

                    ๒.  เขตอ�านาจศาลปกครองตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและ

            วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ ทั้งนี้มีประเด็นต้องพิจารณาว่าคดี
            ดังกล่าวเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) หรือ




               ๑  มาตรา ๑๙๔ วรรคหนึ่ง ศาลยุติธรรมเป็นศาลที่มีอ�านาจในการพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง
            เว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอ�านาจของศาลอื่น
               ๒  มาตรา ๑๙๗ วรรคหนึ่ง ศาลปกครองมีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองอันเนื่องมาจาก
            การใช้อ�านาจทางปกครองตามกฎหมายหรือเนื่องมาจากการด�าเนินกิจการทางปกครอง ทั้งนี้ตามที่
            กฎหมายบัญญัติ



            80
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92