Page 85 - annual 2561
P. 85
77
มีการเสนอเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจ
หน้าที่ระหว่างศาล เมื่อปี ๒๕๖๐
คดีนี้ ผู้พิการได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร
ต่อศาลยุติธรรมว่าตนและสมาชิกกลุ่มคนพิการเป็น
“คนพิการ” ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนา
คุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และได้รับความ
คุ้มครองจากพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้รับความเสียหาย
จากการที่กรุงเทพมหานครจ�าเลยละเมิดสิทธิของโจทก์
กับพวกจากการที่จ�าเลยได้ท�าสัญญาสัมปทานระบบ
ขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครกับบริษัทขนส่งมวลชน
กรุงเทพ จ�ากัด ในการให้บริการขนส่งมวลชนโดยรถราง โดยใช้สิทธิตามมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม
หรือ “บีทีเอส” โดยไม่มีการจัดท�าลิฟต์ และสิ่งอ�านวย และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่บัญญัติ
ความสะดวกทั้ง ๒๓ สถานี หรือมีการจัดท�าแต่ไม่ ให้สิทธิโจทก์ในการฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดต่อ
แล้วเสร็จ และไม่อาจใช้งานได้ โดยก่อนหน้านี้ศาลปกครอง ศาลที่มีเขตอ�านาจ ... แต่พระราชบัญญัติดังกล่าวมิได้
สูงสุดมีค�าพิพากษาให้จ�าเลยจัดท�าลิฟต์และอุปกรณ์ ก�าหนดว่าศาลที่มีเขตอ�านาจนั้นคือศาลใด เนื่องจากการ
สิ่งอ�านวยความสะดวกที่สถานีขนส่งทั้ง ๒๓ สถานี และ กระท�าละเมิดของหน่วยงานทางปกครองอาจเป็นคดี
จัดท�าสิ่งอ�านวยความสะดวกบนรถไฟฟ้ารวมทั้งติด ที่อยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือ
สัญลักษณ์คนพิการไว้ทั้งในและนอกตัวรถคันที่จัดไว้ ศาลปกครองก็ได้ ดังนั้น การวินิจฉัยว่าคดีอยู่ในอ�านาจ
ส�าหรับคนพิการตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๔๒) ศาลใดจึงต้องพิจารณาลักษณะของการกระท�าอันเป็น
ออกตามความในพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพ เหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ จากนั้นจึงน�าไปพิจารณากับ
คนพิการ พ.ศ. ๒๕๓๔ และระเบียบคณะกรรมการฟื้นฟู เขตอ�านาจศาลปกครองตามพระราชบัญญัติจัดตั้ง
สมรรถภาพคนพิการ ว่าด้วยมาตรฐานอุปกรณ์หรือ ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
สิ่งอ�านวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ก�าหนดเขตอ�านาจศาลปกครองอันเป็น
โดยด�าเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่มี ศาลที่มีเขตอ�านาจเฉพาะ (ส่วนศาลยุติธรรมเป็นศาลที่
ค�าพิพากษา แต่จ�าเลยเพิกเฉย อันเป็นการจงใจกระท�า มีเขตอ�านาจทั่วไป) โดยคณะกรรมการวินิจฉัยว่า เมื่อ
ละเมิดและขัดขวางการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีค�าพิพากษาให้จ�าเลยซึ่งเป็น
คนพิการ เลือกปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย หน่วยงานทางปกครองชดใช้ค่าเสียหายจากการที่อ้างว่า
และไม่ปฏิบัติตามค�าพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด จ�าเลยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม
ขอให้ศาลพิพากษาให้กรุงเทพมหานครจ�าเลยชดใช้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และค�าพิพากษา
ค่าเสียหายเชิงลงโทษแก่โจทก์และสมาชิกกลุ่มคนพิการ ศาลปกครองสูงสุดที่มีค�าพิพากษาให้จ�าเลยจัดท�าลิฟต์
ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต และสิ่งอ�านวยความสะดวกที่สถานีบีทีเอสทั้ง ๒๓
คนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ สถานี และบนรถไฟฟ้า โดยเมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติ
กรณีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าคดีนี้อยู่ในอ�านาจ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐
ของศาลใดระหว่างศาลปกครองและศาลยุติธรรม จะ มาตรา ๒๒ บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่
เห็นได้ว่า การใช้สิทธิเรียกค่าเสียหายในคดีนี้ โจทก์ฟ้อง เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องใด มีหน้าที่ให้การส่งเสริมและ