Page 82 - annual 2561
P. 82

74




                    การพิจารณาหน่วยงานทางปกครองที่ยาก เพื่อหาก�าไรของบริษัท การท�าสัญญาของผู้ถูกฟ้องคดี
            ที่สุด คือ “หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อ�านาจทาง ที่ ๑ จึงมิใช่กระท�าในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้

            ปกครองหรือให้ด�าเนินกิจการทางปกครอง” ซึ่งหน่วยงาน  ใช้อ�านาจทางปกครองหรือให้ด�าเนินกิจการทางปกครอง
            ดังกล่าวไม่ใช่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐใด ๆ  อันจะถือเป็นหน่วยงานทางปกครองตามมาตรา ๓ แห่ง
            ทั้งสิ้น แต่เป็นเอกชนซึ่งอาจอยู่ในรูปบริษัทจ�ากัด หรือ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ
            ห้างหุ้นส่วนจ�ากัด หรือบริษัทมหาชนจ�ากัดก็ได้ แต่เป็น   ค�าวินิจฉัยที่ ๖๗/๒๕๖๑ บริษัทขนส่ง จ�ากัด

            เอกชนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐให้ใช้อ�านาจรัฐหรือ  โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ากัดตามประมวล
            ด�าเนินกิจการทางปกครองบางอย่าง และการกระท�า     กฎหมายแพ่งและพาณิชย์  จึงมิใช่หน่วยงานทาง

            ของเอกชนดังกล่าวจะเข้านิยามเป็น “หน่วยงานทาง    ปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง
            ปกครอง” และอยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของ        ศาลปกครองฯ และแม้โจทก์จะเป็นรัฐวิสาหกิจตาม
            ศาลปกครอง ก็ต่อเมื่อหน่วยงานเอกชนนั้นได้ด�าเนินการ  พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๑ แต่ก็มิใช่

            หรือใช้อ�านาจตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐในการด�าเนิน  รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราช
            กิจการทางปกครอง นอกเหนือจากนี้ย่อมเป็นการกระท�า  กฤษฎีกาที่จะถือเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามนิยาม

            ในฐานะนิติบุคคลเอกชนเช่นเดียวกับเอกชนทั่วไป
                                                            ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามการที่โจทก์
                    ตัวอย่างค�าวินิจฉัย เช่น                ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งประจ�าทางจากนาย

                    ค�าวินิจฉัยที่ ๖๖/๒๕๖๑ บริษัททีโอที จ�ากัด   ทะเบียนกลางโดยการอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุม
            (มหาชน) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เป็นบริษัทมหาชน จ�ากัด   การขนส่งทางบกกลางตามมาตรา ๑๙ ประกอบมาตรา
            ซึ่งแปลงสภาพและรับโอนกิจการมาจากองค์การโทรศัพท์  ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒

            แห่งประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ    อันเป็นการอนุญาตให้เข้าร่วมจัดท�าบริการสาธารณะด้าน
            พ.ศ. ๒๕๔๒ มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ การคมนาคมและขนส่ง โดยโจทก์ได้รับสัมปทานเดินรถ
            สื่อสารโทรคมนาคมทุกชนิด  โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่  ๑   หมวดที่ ๒ จากกรมการขนส่งทางบก โจทก์จึงอาจเป็น

            จะมีฐานะเป็นหน่วยงานทางปกครองประเภท  หน่วยงานทางปกครองประเภทหน่วยงานที่ได้รับ
            หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อ�านาจทางปกครอง มอบหมายให้ด�าเนินกิจการทางปกครอง ตามมาตรา ๓
            หรือได้ด�าเนินกิจการทางปกครองตามมาตรา ๓ แห่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ ได้ หาก

            พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ ได้ ก็ต่อเมื่อผู้ถูก กระท�าการใดอันเป็นการใช้อ�านาจตามที่ได้รับ
            ฟ้องคดีที่ ๑ ได้กระท�าการเกี่ยวกับบริการสาธารณะหรือ มอบหมายนั้น นอกเหนือจากนี้การกระท�าของโจทก์

            ใช้อ�านาจทางปกครองในการด�าเนินบริการสาธารณะ ย่อมเป็นการกระท�าในฐานะนิติบุคคลเอกชนเช่นเดียวกับ
            ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ นอกเหนือจากนี้แล้ว   บริษัทจ�ากัดทั่วไป เมื่อข้อพิพาทในคดีนี้โจทก์อ้างว่าจ�าเลย

            การกระท�าของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ย่อมเป็นการประกอบ ที่ ๑ ซึ่งเป็นเอกชน ผิดสัญญาบริหารลานจอดรถยนต์
            ธุรกิจเช่นเดียวกับเอกชนทั่วไป การท�าสัญญาจ้างเหมา ส่วนบุคคล ซึ่งสัญญาดังกล่าวโจทก์ให้สิทธิแก่จ�าเลยที่ ๑
            ให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นเอกชนติดตั้งอุปกรณ์โทรทัศน์วงจรปิด ในการบริหารพื้นที่จอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์

            เพื่อให้บริการแก่เทศบาลนครหาดใหญ่ตามสัญญาจ้าง  ส่วนบุคคลบริเวณด้านหน้าอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสาร
            ระหว่างเทศบาลนครหาดใหญ่กับผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑   โดยจ�าเลยที่ ๑ ตกลงจ่ายเงินค่าตอบแทนแก่โจทก์เป็น

            จึงมิใช่การกระท�าที่เป็นการด�าเนินกิจการทางปกครอง รายเดือน ซึ่งมีลักษณะเป็นการจัดหาผลประโยชน์ใน
            ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐภายในขอบอ�านาจหน้าที่ ทรัพย์สินเช่นเดียวกับเอกชนทั่วไป อันเป็นการประกอบ
            ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เป็นแต่เพียงการประกอบกิจการ กิจการเชิงพาณิชย์ของโจทก์ที่แยกออกได้จากการด�าเนิน
   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87