Page 83 - annual 2561
P. 83
75
กิจการทางปกครองตามที่ได้รับมอบหมายจากกรมการ ของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม (๑)
ขนส่งทางบก การท�าสัญญาของโจทก์จึงมิได้กระท�าใน หรือ (๒) ก็มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายนี้
ฐานะหน่วยงานทางปกครอง สัญญาพิพาทจึงไม่ใช่สัญญา เนื่องจากเป็นบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ให้แก่หน่วยงานทาง
ทางปกครองที่จะอยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของ ปกครองดังกล่าวนั่นเอง
ศาลปกครองตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ มาตรา ๙ จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า การวินิจฉัยสถานะ
วรรคหนึ่ง (๔) ความเป็น “หน่วยงานทางปกครอง” และ “เจ้าหน้าที่
ส�าหรับค�าว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ตามพระราช ของรัฐ” ของโจทก์หรือจ�าเลยในคดีเป็นปัญหาส�าคัญ
บัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง เพราะเป็นเงื่อนไขหรือองค์ประกอบประการแรกของการ
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ นั้น หากว่า หน่วยงานของรัฐใด วินิจฉัยว่าคดีพิพาทนั้นเป็นคดีปกครองที่อยู่ในอ�านาจของ
มีฐานะเป็นหน่วยงานทางปกครองตามพระราชบัญญัตินี้ ศาลปกครองหรือเป็นคดีอื่นที่อยู่ในอ�านาจศาลยุติธรรม
นิยามตาม (๑) ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง คณะบุคคล เมื่อผ่านการพิจารณาในประเด็นนี้แล้วจึงจะได้พิจารณา
หรือผู้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานทางปกครองดังกล่าว ปัญหาประการต่อไปว่าการกระท�าที่เป็นเหตุพิพาทนั้น
ย่อมมีสถานะเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ที่อาจอยู่ในอ�านาจ มีลักษณะเป็นคดีปกครองที่อยู่ในอ�านาจของศาลปกครอง
ศาลปกครองทันที ส่วนนิยามตาม (๒) คณะกรรมการ ชั้นต้นตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง หรือเป็นคดีปกครองที่อยู่
วินิจฉัยข้อพิพาท คณะกรรมการหรือบุคคลซึ่งมีกฎหมาย ในอ�านาจศาลปกครองสูงสุดตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราช
ให้อ�านาจในการออกกฎ ค�าสั่ง หรือมติใด ๆ ที่มีผลกระทบ บัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
ต่อบุคคลนั้น อาจมิใช่คณะกรรมการที่อยู่ในสังกัด พ.ศ. ๒๕๔๒ หรือไม่ต่อไป
ของหน่วยงานทางปกครองนั้นก็ได้ เพียงแต่เป็น
คณะกรรมการหรือบุคคลซึ่งมีกฎหมายให้อ�านาจใน
การออกกฎ ค�าสั่ง หรือมติใด ๆ ย่อมมีสถานะเป็น
“เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาล
ปกครองฯ ที่อาจถูกตรวจสอบการใช้อ�านาจดังกล่าวได้
ส่วนคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทนั้น พระราชบัญญัตินี้
ได้ให้นิยามไว้หมายความว่า คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้น
ตามกฎหมายที่มีการจัดองค์กรและวิธีพิจารณาส�าหรับ
การวินิจฉัยชี้ขาดสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ดังนั้น
คณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทและคณะกรรมการหรือ
บุคคลซึ่งมีกฎหมายให้อ�านาจในการออกกฎ ค�าสั่ง หรือ
มติใด ๆ ที่มีผลกระทบต่อบุคคลนั้น อาจจะสังกัด
หน่วยงานทางปกครองหรือไม่สังกัดหน่วยงานทาง
ปกครองก็ได้ เช่น คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารตาม
มาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
แพทยสภา คณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คณะกรรมการอัยการ ฯลฯ ส่วน “เจ้าหน้าที่ของรัฐ”
ตาม (๓) บุคคลที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในก�ากับดูแล