Page 63 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 63

59



               23. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 136/2562

               ประเด็นข้อพิพำท       :  1. ผู้คัดค้ำนหรือผู้เรียกร้องเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ
                                        2. ผู้เรียกร้องหรือผู้คัดค้ำนเสียหำยเพียงใด
                                        3. หุ้นส่วนผู้จัดกำรต้องร่วมรับผิดกับผู้เรียกร้องหรือไม่

               คณะอนุญำโตตุลำกำรได้พิจำรณำเรื่องนี้แล้ว มีค ำวินิจฉัยชี้ขำดดังนี้

                              ประเด็นข้อ 1  ผู้คัดค้านหรือผู้เรียกร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา และประเด็นข้อ 2 ผู้เรียกร้องหรือ
               ผู้คัดค้านเสียหายเพียงใด เป็นไปตามข้อตกลงของคู่พิพาททั้งสองฝ่ายในชั้นไกล่เกลี่ย คือ ผู้เรียกร้องแก้ไขปรับปรุงงานตาม
               ความประสงค์ของผู้คัดค้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว และผู้คัดค้านรับมอบงานแล้ว ผู้เรียกร้องย่อมมีสิทธิได้รับเงินค่าจ้างจ านวน
               1,330,000 บาท ตามสัญญาจ้าง ข้อพิพาทตามประเด็นข้อพิพาททั้งสองข้อดังกล่าวคงเหลือในปัญหาที่ว่าผู้คัดค้าน
               เสียหายเพียงใด ซึ่งผู้คัดค้านสงวนสิทธิเรียกร้องไว้เป็นค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย และให้คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาวินิจฉัย
               ไปตามหลักฐานที่ปรากฏตามค าเสนอข้อพิพาท ค าคัดค้านและค าร้องแย้ง ตามสัญญาจ้างเลขที่ 1/2561  ก าหนดให้
               ผู้เรียกร้องท างานให้แล้วเสร็จและส่งมอบงานในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561  ผู้เรียกร้องมีหนังสือลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์
               2561  ถึงผู้คัดค้านเสนอส่งมอบงานและขอรับเงินค่าจ้างตามเอกสารท้ายค าเสนอข้อพิพาทหมายเลข 6  ล่วงพ้น
               ก าหนดเวลาส่งมอบงานมา 2 วัน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ตรวจงานที่ผู้เรียกร้องเสนอส่งมอบงานแล้วมีความเห็นว่า

               งานบางอย่างตามที่ระบุไม่ถูกต้องตามสัญญาจ้างและปฏิเสธไม่รับมอบงาน ตามบันทึกคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ลงวันที่
               9 มีนาคม 2561 เอกสารท้ายค าคัดค้านและค าร้องแย้งหมายเลข 9  และผู้คัดค้านมีหนังสือลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์
               2561 ถึงผู้เรียกร้องให้ช าระค่าปรับตามสัญญาจ้างข้อ 15 อัตราร้อยละ 0.2 (0.2%)  หรือ 2,660 บาท ต่อวัน จนกว่า
               จะส่งมอบงานเสร็จสิ้น นอกจากนี้ผู้คัดค้านมีหนังสือถึงผู้เรียกร้องให้แก้ไขงานให้ถูกต้องตามสัญญาจ้างรวม 3 ครั้ง
               ตามหนังสือลงวันที่ 14 มีนาคม 2561 ลงวันที่ 4 เมษายน 2561  และลงวันที่ 12 มิถุนายน 2561  ผู้เรียกร้องโต้แย้ง
               สงวนสิทธิไม่ช าระค่าปรับและร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ด ารงธรรมจังหวัด อ้างเหตุงานที่ก่อสร้างถูกต้องแล้ว ผู้คัดค้าน
               อ้างว่างานไม่ถูกต้องแต่ไม่ระบุรายละเอียดเป็นการไม่ยุติธรรมต่อผู้เรียกร้อง เห็นว่า ผู้คัดค้านใช้สิทธิปรับผู้เรียกร้อง
               ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561  อัตราร้อยละ 0.2 (0.2 %) หรือวันละ 2,660 บาท ซึ่งเป็นวันถัดจากวันครบก าหนด

               ส่งมอบงานเรื่อยมาค านวณถึงวันที่ 10 มกราคม 2562  ซึ่งเป็นวันยื่นค าคัดค้านและค าร้องแย้งเป็นเวลา 318 วัน
               เป็นค่าปรับจ านวน 845,880 บาท เกินกว่าร้อยละ 10 ของจ านวนเงินค่าจ้าง โดยผู้เรียกร้องไม่ได้ยินยอมให้ปรับโดยไม่มี
               เงื่อนไข ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 183
               วางหลักว่า นอกจากการบอกเลิกสัญญาตามข้อตกลงแล้ว หากปรากฏว่าคู่สัญญาไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือ
               ข้อตกลงได้และจะต้องมีการปรับตามสัญญาหรือข้อตกลง หากจ านวนเงินค่าปรับจะเกินร้อยละ 10 ของวงเงินค่าพัสดุหรือ
               ค่าจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาด าเนินการบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง เว้นแต่คู่สัญญาจะยินยอมให้ปรับ
               โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ค่าปรับร้อยละ 10 ของเงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างจ านวน 1,330,000 บาท เป็นเงินค่าปรับจ านวน
               133,000 บาท เท่ากับเป็นค่าปรับในช่วงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561  ถึงวันที่ 17 เมษายน 2561 มีก าหนดเวลา 50 วัน
               เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2561 เป็นต้นไปผู้คัดค้านต้องใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อไม่บอกเลิกสัญญาย่อมไม่มี

               สิทธิปรับ ผู้เรียกร้องจึงไม่ต้องรับผิดช าระค่าปรับในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2561 เป็นต้นไปดังกล่าว และตาม
               ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560  ดังกล่าวข้อ 162  เรื่องการ
               ก าหนดค่าปรับในสัญญา กรณีการจ้างซึ่งต้องการผลส าเร็จของงานทั้งหมดพร้อมกัน ให้ก าหนดค่าปรับเป็นรายวัน
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68