Page 61 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 61
57
ผู้คัดค้านมีสิทธิปรับผู้รับจ้างได้ นอกจากนี้โดยผลบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 308 วรรคสองและ
ความข้อ 19 ของสัญญาจ้างทั้งสองฉบับนั้น ผู้คัดค้านในฐานะผู้ว่าจ้างยังมีสิทธิที่จะหักเอาค่าปรับจากจ านวนเงินค่าจ้างที่
ค้างจ่ายอยู่ได้ด้วย ด้วยเหตุนี้จึงคิดค านวณได้ว่า ในสัญญาจ้างเลขที่ 77/2554 มีค่าปรับวันละ 2,000 บาท ส่งมอบงาน
ล่าช้า 639 วัน คิดเป็นค่าปรับจ านวน 1,278,000 บาท หักออกจากเงินค่าจ้างจ านวน 2,000,138 บาท แล้ว คงเหลือ
ค่าจ้างจ านวน 722,138 บาท ในสัญญาจ้างเลขที่ 76/2554 มีค่าปรับวันละ 1,989 บาท ส่งมอบงานล่าช้า 639 วัน
คิดเป็นค่าปรับจ านวน 1,270,971 บาท หักออกจากเงินค่าจ้างจ านวน 1,989,138 บาท แล้ว คงเหลือค่าจ้างจ านวน
718,167 บาท ที่ผู้คัดค้านน าสืบว่าได้คิดค่าปรับโดยคิดจากค่างานก่อสร้างสะพานฐานรากเสาเข็ม ซึ่งเป็นค่างานตามที่
ก าหนดไว้เดิม ในเมื่อการก่อสร้างจริงมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจากฐานรากเสาเข็มเป็นฐานรากแผ่ท าให้ได้ปรับลดค่างาน
จึงไม่ถูกต้อง และรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ส่วนพยานฝ่ายผู้เรียกร้อง มีนายส. เป็นการเบิกความในลักษณะเรียกร้อง
เอาค่าจ้างเต็มตามจ านวนที่ได้รับโอนสิทธิมาจากผู้รับจ้างตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ข้อนี้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้คัดค้าน
มีสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 308 วรรคสอง และความข้อ 17 กับข้อ 19 ของสัญญาจ้างทั้งสอง
ฉบับในอันที่จะปรับผู้รับจ้างและหักเอาค่าปรับจากจ านวนเงินค่าจ้างที่ค้างจ่ายอยู่ได้ กรณีเช่นนี้ผู้เรียกร้องในฐานะผู้รับโอน
สิทธิเรียกร้องในค่าจ้างจากผู้รับจ้าง ก็ย่อมมีสิทธิเรียกร้องในค่าจ้างเพียงเท่าจ านวนที่เหลืออยู่เท่านั้น
คณะอนุญาโตตุลาการ เห็นสมควรพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าปรับในข้อพิพาทนี้ ต่อไป ตามที่
ค่าปรับในสัญญาจ้างเลขที่ 77/2554 มีจ านวน 1,278,000 บาท และในสัญญาจ้างเลขที่ 76/2554 มีจ านวน
1,270,971 บาท นั้น ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การก่อสร้างตามข้อพิพาทนี้ เป็นการก่อสร้างในฤดูฝน ซึ่งมีฝนตกชุกถนน
ทางเข้าสู่ที่ก่อสร้างเป็นทางลูกรังแคบ ๆ ลาดชัน มีสะพานช ารุดหลายแห่ง มีหุบเหวอยู่เป็นระยะ ๆ ขนเครื่องมือและวัสดุ
อุปกรณ์การก่อสร้างเข้าไปล าบาก ในระหว่างท าการก่อสร้างก็เกิดเหตุอุทกภัยกระหน่ าซ้ าเติม เหตุนี้จึงน่าเชื่อว่าการท างาน
และส่งมอบงานล่าช้านั้น เนื่องมาจากมีเหตุแวดล้อมภายนอกซึ่งไม่อาจควบคุมได้เป็นอุปสรรคมากกว่าที่เกิดจากพฤติกรรม
ของผู้รับจ้างเอง ท าให้เห็นได้ว่าค่าปรับส าหรับกรณีส่งมอบงานล่าช้าในข้อพิพาทนี้มีจ านวนไม่สมควร โดยเป็นจ านวนที่สูง
เกินไป ค่าปรับตามสัญญาจ้างทั้งสองฉบับนี้มีลักษณะเป็นค่าเสียหายที่ก าหนดไว้ล่วงหน้าและเป็นเบี้ยปรับตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั่นเอง ซึ่งในเมื่อเห็นแล้วว่ามีจ านวนสูงเกินไปคณะอนุญาโตตุลาการย่อมใช้ดุลพินิจลดลงเป็น
จ านวนพอสมควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383 เพื่อให้ค่าปรับมีจ านวนพอเหมาะพอควร
แก่พฤติการณ์ จึงเห็นสมควรลดค่าปรับในสัญญาจ้างเลขที่ 77/2554 คงปรับเป็นเงิน 511,200 บาท และลดค่าปรับ
ในสัญญาจ้างเลขที่ 76/2554 คงปรับเป็นเงิน 508,388 บาท ดังนี้ ค่างานจ้างที่ค้างจ่ายอยู่ในสัญญาจ้างเลขที่
77/2554 และสัญญาจ้างเลขที่ 76/2554 จึงคงเหลืออยู่เป็นจ านวน 1,48๘,938 บาท และ 1,480,750 บาท
ตามล าดับ ค่างานจ้างที่ค้างจ่ายทั้งสองจ านวนนี้ ตกเป็นสิทธิของผู้เรียกร้องตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ผู้คัดค้านจะต้อง
อนุมัติเบิกจ่ายให้แก่ผู้เรียกร้อง จะปฏิเสธการเบิกจ่ายโดยอ้างว่าผู้รับจ้างไม่มีเอกสารแสดงการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา
มาประกอบเป็นหลักฐานหาได้ไม่ และต้องจ่ายช าระให้แก่ผู้เรียกร้อง ส่วนวันผิดนัดควรจะเป็นวันใดนั้น ตามข้อเท็จจริงใน
ข้อพิพาทนี้ ก่อนวันเสนอข้อพิพาท ไม่ปรากฏมีพฤติการณ์ใดที่พอจะถือได้ว่าเป็นการผิดนัดของผู้คัดค้าน เมื่อเป็นเช่นนี้
จึงเห็นสมควรก าหนดให้ผู้คัดค้านรับผิดในดอกเบี้ยผิดนัดตั้งแต่วันเสนอข้อพิพาท กล่าวคือในข้อพิพาทหมายเลขด าที่
51/2561 ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ในข้อพิพาทหมายเลขด าที่ 64/2561 ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2561
เป็นต้นไป ส่วนการที่ผู้เรียกร้องขอให้ช าระดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2557 โดยอ้างว่าเป็นวันส่งมอบงานนั้น
ข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณาไม่ได้ความตามที่อ้างจึงบังคับให้ตามที่ขอไม่ได้